ขนาด ใครคิดว่าไม่สำคัญ
How toInsightSME Research 28/01/2016
ขนาด ใครคิดว่าไม่สำคัญ ! ขึ้นต้นมาแบบนี้อย่าเพิ่งคิดว่าทางเราจะเปลี่ยนแนวมาเขียนเรื่องอื่นนะครับ ^^ แต่เน้นเรื่องการผลิตสินค้าครับ ส่วนใหญ่เราจะพอทราบการวางแผนการพัฒนาสินค้า เช่น รสชาติ การใช้งาน แบรนด์ หรือบรรจุภัณฑ์กันบ้าง แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญและควรคำนึงถึงคือ ขนาด ครับ มาดูกันว่าขนาดนั้นสำคัญอย่างไร ทราบหรือไม่ครับ ว่าทัศนคติที่มีต่อขนาดสินค้าเกิดจากการเปรียบเทียบทั้งสิ้น เช่น เราจะไม่คิดว่ารถที่เราใช้อยู่เล็กเกินไป ถ้าเราไม่เคยขึ้นรถคันที่ใหญ่กว่า อาหารจานที่เราสั่งจะรู้สึกน้อยทันทีเมื่อเราเห็นอาหารในจานของคนข้างๆ มากกว่า และแน่นอน ถ้ามีขนาดให้เลือก คนส่วนใหญ่มักจะเลือกขนาด “กลาง” ดังนั้น ผู้ประกอบการ SMEs ต้องพิจารณาในเรื่องของขนาดสินค้า เพราะมีผลต่อการซื้อสินค้าของลูกค้า รวมถึงการสร้างกำไรที่มากกว่าด้วย ผลการวิจัยของ Harvard Business Review แสดงว่า ขนาด ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า จากการทดลองคือ มี French Fries 3 ขนาด พบว่าการกำหนดขนาดว่า “มินิ” “เล็ก” และ “ปกติ” สามารถเพิ่มความอยากซื้อถึง... Read more
ไอเดียธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจ ถ้าไม่ได้มีการวางแผนหรือปรับให้เข้ากับตลาด ประเภทสินค้าและบริการ มันก็เป็นได้แค่แผนที่ดูสวยหรู เรามาลองดูครับ ว่าทำอย่างไร ไอเดียธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจ ถึงจะเจ๋งที่สุด 1. ลองขายดูก่อน ส่วนใหญ่เวลาเรามี ไอเดียธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจ เจ๋งๆ เรามักจะคิดเรื่องการผลิตการสร้างสินค้าและบริการให้สำเร็จก่อน แล้วค่อยวางแผนการตลาด และเริ่มวางสินค้าและบริการออกสู่ตลาด……..แล้วถ้าไม่สำเร็จล่ะ ผมว่าคงต้องไม่ต้องบอกถึงความพินาศของธุรกิจและเงินลงทุน ดังนั้นเวลาเรามีไอเดียธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจเจ๋งๆ ให้ลองหามาขายดูก่อน หรือคิดเรื่องการขายสินค้าหรือบริการอย่างไรให้เป็นอันดับแรกๆ (Market Test) ถ้าขายดีหรือลูกค้าชื่นชอบ จึงลงทุนเรื่องการผลิตต่อไป 2. อย่าลืมทำความรู้จักกับตลาด เราเป็นเพียงผู้เข้ามาขายสินค้าและบริการในตลาดนี้ ดังนั้นอย่าลืมที่จะทำวิจัยตลาด วิเคราะห์คู่แข่ง รวมถึงสินค้าและบริการในตลาดทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีไอเดียธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจ เป็นที่ต้องการของตลาด (Market Demand) ฟังเสียงจากลูกค้า ฟังเสียงจากผู้ผลิต ฟังเสียงจากพ่อค้าในตลาด และฟังเสียงผู้ร่วมงานของเรา อย่าลืมว่าทุกคนในตลาดล้วนส่งผลต่อธุรกิจของเรา 3. วางแผนทางการเงินให้ครบทุกด้าน จากความผิดพลาดของหลายๆธุรกิจ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะวางแผนทางการเงินด้านรายได้ นอนฝันไปกับยอดขายและกำไรที่วาดฝันไว้ ทั้งการ Forecast sales และการวางแผนการเติบโตของธุรกิจ แต่ละเลยวางแผนการลงทุน... Read more
ด้วยโลกในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบบที่ทำแทนงานประจำ หรือทำเป็นอาชีพเสริม การเริ่มต้นธุรกิจ..ใหม่ นั้นเป็นสิ่งที่คนใน generation นี้ใฝ่ฝัน โลกของการทำธุรกิจนั้นดูหอมหวาน ด้วยความเชื่อที่ว่า การทำธุรกิจนั้นดี เพราะไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร ได้จัดสรรเวลาต่างๆ ได้สะดวก เพราะเป็นเจ้านายของตัวเอง มีอิสระทางความคิด และมีโอกาสที่จะร่ำรวยได้มากกว่าการทำงานประจำ จึงไม่น่าแปลกใจ ว่าทำไมหากเราเดินไปยังแผงหนังสือในปัจจุบัน ชั้นหนังสือขายดีนอกจากจะเป็นเรื่องการลงทุนในหุ้นแล้ว ยังเป็นเรื่อง start up business เป็นส่วนใหญ่ แต่ก่อนที่จะกระโจนเข้าไปหาความฝัน ยังมีบางสิ่งที่เราควรจะ “รู้” ก่อนที่จะ “เริ่ม” ทำธุรกิจเสียก่อน เพื่อให้การตัดสินใจในการทิ้ง passive income นั้น เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า 1. รู้จักคิด ความแปลกใหม่ ความแตกต่าง ความไม่เหมือนใคร เป็นสิ่งสำคัญใน การเริ่มต้นธุรกิจ ในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ธุรกิจใหม่ที่ยังไม่มีคนริเริ่ม แต่สำหรับธุรกิจที่มีอยู่แล้ว หากเราต้องการที่จะเข้าไปร่วมสนามด้วย การคิดถึงจุดขายที่แตกต่างเป็นสิงที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจมาทดลองสินค้า และเกิดการซื้อขาย ซึ่งการคิด ไม่สามารถหยุดได้แค่จุดเริ่มต้น เพราะตลาดมีการเปลียนแปลง ลูกค้ามีการพัฒนา และการแข่งขันไม่เคยหยุดนิ่ง หากคิดจะเป็นผู้ประกอบการแล้ว จะต้องมีการคิด การพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัว กับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้อยู่เสมอ 2.... Read more
ผมว่าเราทุกคนรู้ดีว่า ทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ ทำอย่างไรถึงรวย ทำอย่างไรถึงเป็นคนดีคนเก่ง แม้ว่าจะมีบทความมากมายเขียนเกี่ยวกับความสำเร็จ แต่ก็เป็นเพียงสิ่งที่เราอ่านเพื่อย้ำเตือนในสิ่งที่เราก็พอรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร อาจจะเป็นเพราะธรรมชาติของเราอยากจะทำสิ่งต่างๆตามใจตนเอง อยากสบาย ไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากทำงานหนัก จึงต้องหาทางลัด เคล็ดลับในการทำธุรกิจ ในการประสบความสำเร็จ ให้ความมั่งคั่งร่ำรวย ผมคิดว่า Self-control ว่ามีผลต่อความสำเร็จในทุกๆอย่าง มนุษย์อาจจะพร้อมที่ใช้ชีวิตอย่างไม่เป็นระเบียบแบบแผน จึงต้องมีการควบคุมตัวเอง (Self-control) จากการสังเกตของผมที่ฟิตเนสแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านี้มีการให้แลกบัตรเพื่อรับผ้าขนหนูและชุด เมื่อใช้เสร็จต้องนำมาคืนถึงจะได้รับบัตรคืน ประมาณ 98% มีการนำมาคืน แต่เมื่อเปลี่ยนกฎใหม่เพื่อให้ลูกค้าสะดวกสบายขึ้น ไม่ต้องแลกบัตร รับผ้าขนหนูและชุดได้เลย แล้วนำมาคืน จะเห็นได้ว่า 60% มีการนำมาคืน ที่เหลือทิ้งเกลื่อนกลาดในห้องน้ำและที่ต่างๆ แปลว่าถ้าไม่มีกฎหรือแลกบัตร คนก็พร้อมจะไม่ทำตามระเบียบ แนวคิดเรื่องการควบคุมตัวเอง (Self-control) จาก Travis Bradberry เผยว่าช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงช่วยให้ประสบความสำเร็จได้มากขึ้น บทความนี้จะแนะนำ 8 กลยุทธ์สร้างความสำเร็จในชีวิต 1. อย่าหาความสมบูรณ์แบบ กลยุทธ์สร้างความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าบทความไหนๆก็แนะนำอย่างนี้... Read more
ช่วงหลังๆ ผมได้คุยกับผู้ประกอบการหลายๆท่าน ที่ขยับจากงานประจำมาเป็นเจ้าของธุรกิจ พบว่ามีปัญหาในการปรับตัวพอสมควร เช่นการเปลี่ยนสถานะจากลูกจ้างมาเป็นนายจ้าง ทำให้บางท่านอาจจะปรับตัวได้ไม่ดีพอ บางท่านเผลอกระทำบางสิ่งที่ไม่ควรทำ บางท่านอาจจะหลงใหลในอำนาจไป จนทำให้การบริหารงานไม่เป็นอย่างที่ควรเป็น ผมได้อ่านบทความจาก KEVIN DAUM จึงนำมาเขียนบทความแนะนำ 8 นิสัยที่เจ้านายที่ดีควรมี 1. ฟัง อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เมื่อเราเปลี่ยนมาเป็นนายจ้าง เราอาจจะพูดได้มากขึ้น มีอำนาจมีสิทธิเต็มที่ในการพูด การสั่งงาน หรือการแนะนำสิ่งต่างๆ นิสัยที่เจ้านายที่ดีควรมี คือ การฟัง เจ้านายที่ดี ควรจะรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆจากลูกน้อง ควรให้ลูกน้องเสนอหรือรายงานแผนต่างๆอย่างเต็มที่ แล้วค่อยคิด วิเคราะห์ แล้วจึงให้ข้อเสนอแนะ อย่าลืม ว่าเราควรจ้างพนักงาน “มาคิดและทำงาน” ไม่ใช่มาทำตามเราสั่ง 2. ใส่ใจ นิสัยที่เจ้านายที่ดีควรมี คือ ใส่ใจและเห็นอกเห็นใจ เจ้านายที่ดี ควรใส่ใจความเป็นอยู่ของพนักงาน ควรจะมีความเห็นอกเห็นใจและเป็นที่พึ่งของลูกน้องได้ การที่บริษัทจะเติบโตได้ ไม่ใช่เพียงใช้เงินจ้างเท่านั้น แต่ต้องให้ใจกับพนักงานด้วย เจ้านายอยากให้ลูกน้องทุ่มเทให้กับการทำงาน ลูกน้องก็อยากให้เจ้านายใส่ใจ... Read more
การบริการ เป็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังนอกเหนือจากผลิตภัณฑ์หรือการบริการต่างๆ เราจะเห็นได้ว่าหลายๆเคสที่ลูกค้าแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการไม่พอใจในการบริการ ทั้งจากการสื่อสาร การแสดงออก หรือคำพูดที่พนักงานในการบริการ ยิ่งในเคสที่ลูกค้าไม่พอใจในสินค้าหรือบริการ ยิ่งต้องรับมือด้วยความระมัดระวัง ผู้ประกอบการ SMEs ควรจะให้ความสำคัญในการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย รวมถึงการรับมือลูกค้าไม่พอใจในสินค้าหรือบริการ บทความนี้จะแนะนำ วิธีการรับมือลูกค้าไม่พอใจในสินค้าหรือบริการ 1. อย่าโต้เถียง ให้รับฟัง ข้อนี้สำคัญเป็นอันดับแรกเลย แค่เพียงเราโต้เถียงลูกค้า เรื่องจะลุกลามใหญ่ตำแกว่าที่ควรจะเป็น อย่าลืมว่าลูกค้าไม่พอใจในสินค้าหรือบริการ ต้องการที่จะร้องเรียนหรือหาทางแก้ไข (แม้ว่าจะร้องเรียนด้วยอารมณ์บ้าง) วิธีการรับมือลูกค้าไม่พอใจในสินค้าหรือบริการ คือ พนักงานควรจะรับฟังให้ครบถ้วน เพื่อที่จะวิเคราะห์ว่าเหตุเกิดจากอะไร สินค้าบกพร่องเช่นไร การบริการผิดพลาดตรงไหน 2. อย่ารีบปฏิเสธ หรือหาข้ออ้าง การที่ลูกค้าร้องเรียนมา นอกจากการแจ้งให้ทราบถึงข้อบกพร่อง ปัญหาของสินค้าหรือบริการ และเหตุแห่งการไม่พอใจในเรื่องต่างๆ ลูกค้าต้องการความรับผิดชอบ ดังนั้นอย่ารีบปฏิเสธหรือหาข้ออ้าง การปฎิเสธว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของบริษัท หรือการหาข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิด ทำให้ความไม่พอใจยิ่งเพิ่มมากขึ้น ทางที่ดีพนักงานควรหาทางร่วมกันแก้ไขปัญหานั้นให้ดีที่สุด 3. สุภาพ และควบคุมอารมณ์ให้มากที่สุด ระหว่างการสนทนา หรือรับข้อร้องเรียน ไม่ว่าลูกค้าจะโมโหหรือพูดจาไม่ดีอย่างไร... Read more
เคยสังเกตกันหรือไม่ ว่าคำพูดที่เราใช้กันมักจะแฝงไว้ด้วยทัศนคติ คำที่ผมได้เจอบ่อยเวลาคุยงานหรือแชร์ไอเดียออกไป คือ “ยากอ่ะ” “เป็นไปไม่ได้หรอก” ทำให้เห็นถึงทัศนคติต่อการทำงาน การใช้ชีวิต หรือนิสัยการลงทุน ได้พอสมควร ผมเพิ่งได้อ่านหนังสือ Hatching Twitter เป็นเรื่องราวการเริ่มต้นและดำเนินธุรกิจของ Twitter เห็นได้ชัดว่า ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ มีแต่ลงมือทำไอเดียต่างๆ บทความนี้จะแนะนำวิธีปรับเปลี่ยนทัศนคติ กับ 5 สิ่งที่ไม่ควรพูด ถ้าอยากประสบความสำเร็จ 1. ทำไม่ได้หรอก ลองคิดว่า ถ้า Steve Jobs, Bill Gates, หรือ Mark Zuckerberg พูดคำพูดนี้ออกมา เราคงไม่ได้เห็น Apple, Windows, หรือ Facebook แน่นอน ไม่จำเป็นต้องเรื่องเทคโนโลยี หรือ นวัตกรรมใหม่ๆ อาจจะเป็นแค่เรื่องการแข่งขันในตลาด การพัฒนาสินค้าและบริการ เคยหรือไม่ ที่เรามีไอเดียทำธุรกิจแต่มีคู่แข่งในตลาดมาก แล้วเราก็คิดว่า... Read more
ในการบริหารงาน หรือบริหารทรัพยากรบุคคล การเลื่อนขั้นหรือการปรับตำแหน่งเป็นสิ่งที่พนักงานต้องการมากที่สุด เนื่องจากแสดงให้เห็นความเจริญก้าวหน้าในการทำงาน และเงินเดือนที่สูงขึ้น แต่ผมก็เห็นคนหลายคน ทำงานมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ไม่ขวนขวายเพื่อให้เป็นผู้บริหาร หรือแม้แต่ไม่รับตำแหน่งผู้บริหาร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกพอสมควร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการทำงาน การบริหารทรัพยากรบุคคล และการเจริญเติบโตของบริษัท เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้อ่านงานวิจัยจาก Harvard Business Review เกี่ยวกับ การที่พนักงาน ไม่อยากเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหาร ลองมาดูผลการวิจัยที่น่าสนใจกันครับ “เพียง 34% ของพนักงาน อยากเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหาร” โดยพนักงานชาย อยากเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหาร มากกว่าพนักงานหญิง ผลการวิจัยเผยว่า 40% ของพนักงานชาย อยากเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหาร ขณะที่เพียง 29% ของพนักงานหญิง อยากเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหาร เท่ากับว่า 66% ของพนักงานไม่อยากเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหาร สำหรับเหตุผลว่า ทำไม พนักงาน ไม่อยากเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหาร ได้แก่ 1. พอใจกับตำแหน่งในปัจจุบันแล้ว (52%) 2. ไม่อยากทำงานหนักเกินไป (34%) 3. ไม่มีความรู้ที่เพียงพอในการรับตำแหน่งนั้น (21%) 4. ไม่มีทักษะที่เพียงพอในการรับตำแหน่งนั้น (16%) 5. คิดว่าบริษัทคงไม่ให้โอกาสนั้น เลยไม่รู้จะอยากเป็นไปทำไม (14%) พอได้เห็นถึงเหตุผลแล้ว... Read more
การคัดเลือกผู้สมัครงาน มาทำงานกับบริษัทเรา เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการพัฒนาธุรกิจให้เจริญก้าวหน้า เป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจเอสเอ็มอี (SMEs) เนื่องจาก ธุรกิจเอสเอ็มอี มีงบประมาณการลงทุนที่น้อย จำนวนพนักงานไม่มาก และความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจไม่มากเท่าที่ควร ดังนั้น การคัดเลือกพนักงานทำงานกับองค์กร ต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆให้ถี่ถ้วน แล้วเราจะคัดเลือกผู้สมัครงานได้อย่างไร กับบทความแนะนำ 8 สิ่งสำคัญใน การคัดเลือกผู้สมัครงาน มีงานวิจัยจาก Express Employment Professionals ทำ Survey กับแฟรนไชส์ทั้งหมด 700 แห่งในอเมริกา แคนาดา และอเมริกาใต้ พบว่า ทัศนคติ คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดใน การคัดเลือกผู้สมัครงาน ซึ่งตรงกับบทความก่อนหน้านี้ เหตุผลที่ควรเลือกจ้างพนักงานจาก ทัศนคติ (Attitude) โดยจากการจัดอันดับความสำคัญ จากมากที่สุด ไปน้อยที่สุด ได้แก่ 1. ทัศนคติ 2. ความซื่อสัตย์ต่อองค์กร 3. ประวัติการทำงานที่น่าเชื่อถือ 4. เหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กร 5. ความสามารถเฉพาะทาง 6. ประสบการณ์ทำงาน... Read more
เราเคยสังเกตกันบ้างหรือไม่ว่า สถานที่ทำงานแต่ละที่ให้ บรรยากาศในการทำงาน และความรู้สึกไม่เหมือนกัน ให้อารมณ์ในการทำงาน ทำให้เราผ่อนคลายหรืออยากทำงานมากขึ้นแตกต่างกัน บริษัทบางแห่งให้ความสำคัญกับบรรยากาศในการทำงานเป็นอย่างมาก เช่นมีจัดพื้นที่ให้พนักงานสามารถคุยงานหรือทำงานได้อย่างผ่อนคลาย ไม่จำเป็นต้องนั่งทำที่โต๊ะทำงานเหมือนที่เคยเป็นมา มีผลการวิจัยจาก Shruti Sehgal ว่าคุณภาพของสถานที่ทำงาน มีผลต่อทัศนคติของพนักงานและช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน นอกจากนั้นผลการวิจัยแสดงว่า การออกแบบออฟฟิศที่ดี มีผลต่อความสามารถในการทำงานให้เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจัยต่างๆได้แต่ เฟอร์นิเจอร์ เสียง แสงสว่าง อุณหภูมิ และบรรยากาศรอบๆ นั้น เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการทำงานโดยตรง ดังนั้นเมื่อเวลาเรารู้สึกว่าสถานที่ทำงานหรือออฟฟิศของเรา ไม่น่าทำงาน วุ่นวาย ไม่จรรโลงใจ จะส่งผลให้เราไม่มีอารมณ์ทำงาน คิดงานไม่ออก ทางแก้ของมนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่ คือ การเอางานกลับมาทำที่บ้าน หรือเอาไปทำที่ร้านกาแฟ ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่ทางแก้ที่ถูกต้องสักเท่าไหร่ เพราะว่าเราควรจะแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ คือร่วมกันปรับปรุง บรรยากาศในการทำงาน หรืออาจจะเรียกร้องให้ทางบริษัทปรับปรุงคุณภาพของสถานที่ทำงาน เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นหนึ่งในหลายๆ เรื่องที่บริษัทควรให้ความสำคัญ แต่การเอางานกลับไปทำที่บ้านหรือร้านกาแฟ เสียทั้งเวลาพักผ่อน เวลาของครอบครัว และเสียเงินค่ากาแฟ และอื่นๆ แต่ถ้าเรารู้สึกว่าบรรยากาศของร้านกาแฟนั้นสามารถช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานและช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลองนี่เลยครับ Coffitivity สามารถเลือกเสียงบรรยากาศของร้านได้ 3... Read more
- 1
- 2
