ปัจจุบันธุรกิจ SMEs ได้รับความนิยมมากทำให้มีผู้ประกอบการธุรกิจใหม่ๆเข้าสู่ตลาดมากขึ้น รวมถึงกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มเริ่มต้นวัยทำงาน เรียกได้ว่า ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Young Entrepreneur) ที่มีความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ และไฟในการทำงานมากมาย และจากผลการวิจัยของ Kauffman Foundation เผยว่ากลุ่มอายุ 18-21 ปีมีแนวโน้มจะเริ่มต้นธุรกิจเพิ่มขึ้น ดังนั้นบทความนี้จึงเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ควรรู้ก่อน เริ่มต้นทำธุรกิจ ได้แก่ 1. จงมั่นใจ…..แต่อย่ามากเกินไป ควรจะก้าวเดินอย่างมั่นใจและต้องมั่นคงด้วย หลายๆครั้งที่ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มั่นใจในตัวเองมากเกินไป และด้วยวัยที่กล้าเสี่ยง ทำให้อาจจะตัดสินใจบางอย่างเร็วเกินไป หรือเกินกว่าความสามารถที่จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ยึดเป้าหมายไว้ให้แน่น เพราะว่า ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ และไฟในการทำงานมากมาย ทำให้ไอเดียต่างๆพรั่งพรูออกมา อาจจะทำให้เลือกไม่ได้ว่าจะทำอะไรกันแน่ เพราะคิดว่าอันนี้ก็เจ๋ง อันนั้นก็เจ๋ง ทางแก้ไขคือ เลือกมาหนึ่งไอเดียที่เจ๋งที่สุด แล้วทำมันให้ดีที่สุด 3. ลงมือทำ เพราะว่า ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มีความรู้ความสามารถ อาจจะทำวิเคราะห์มากมาย... Read more
ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆจากชีวิตและประสบการณ์ของผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญที่เราสามารถปรับข้อคิดต่างๆมาใช้ในการพัฒนาตนเอง ซึ่งเราสามารถเรียนรู้ได้ทั้งจากคนที่ล้มเหลวมาก่อน คนที่ประสบความสำเร็จ และคนที่ประสบความสำเร็จมาก หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าระหว่างคนที่ “ประสบความสำเร็จ” และคนที่ “ประสบความสำเร็จมาก” ต่างกันอย่างไร มีวิธีคิดต่างกันอย่างไร บทความนี้ Greg McKeown จาก LinkedIn ได้อธิบายความแตกต่างไว้ดังต่อไปนี้ 1. คนที่ประสบความสำเร็จมักจะพูดว่า “ถ้าฉันหาเวลาทำได้ ฉันจะทำ” แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากมากมักจะ “เลือกทำ” Warren Buffet เคยกล่าวไว้ว่าความแตกต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จ กับคนที่ประสบความสำเร็จมาก คือคนที่ประสบความสำเร็จมากมักจะปฏิเสธทุกสิ่งอย่าง แต่การปฏิเสธนี้ไม่ใช่การไม่ทำ แต่เป็นการเลือกทำในสิ่งที่วางแผนไว้ และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ตามที่วางแผนไว้ 2. คนที่ประสบความสำเร็จนอนพักผ่อนเพียง 4 ชั่วโมงต่อคืน แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากมันจะนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ มีงานวิจัยจาก K. Anders Ericsson พบว่านักไวโอลินที่ดีที่สุดใช้เวลาในการฝึกฝนมากกว่า และพักผ่อนนานกว่า โดยเฉลี่ย 8.6 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าการน้อยหลับน้อยๆ การทำงานหนัก หามรุ่งหามค่ำ อดหลับอดนอนไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการทำงาน แต่เป็นการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพต่างหาก ดังนั้นจึงควรมีการวางแผนในการทำงาน รวมถึงควรกำหนดเวลาในการทำงานและการพักผ่อน 3. คนที่ประสบความสำเร็จคิดว่าการเล่นนั้นเสียเวลา แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากมากมองการเล่นเป็นบ่อเกิดของความคิดสร้างสรรค์... Read more
ในองค์กรหรือบริษัทต่างๆ ประกอบด้วยคนมากมาย ต่างนิสัย ต่างคุณสมบัติ ต่างการแสดงออก และต่างความรู้ความสามารถ เป็นที่ถกเถียงกันมานานว่า เราควรเลือกจ้างพนักงานจากอะไร ความรู้ความสามารถ? ปริญญา? มหาวิทยาลัย? ลักษณะส่วนตัว? หรือ ทัศนคติ? มีผลการวิจัยแสดงว่า ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional intelligence) มีผลต่อความเป็นผู้นำและองค์กร กล่าวคือ ถ้าขาดความฉลาดทางอารมณ์ ก็ส่งผลต่อความล้มเหลวในการบริหาร แล้วถ้าเป็นพนักงานล่ะ ทัศนคติ (Attitude) ส่งผลต่อการทำงานได้อย่างไร บทความนี้จะกล่าวถึง เหตุผลที่ควรเลือกจ้างพนักงานจาก ทัศนคติ (Attitude) 1. พวกเขาจะไม่สนใจเสียงรอบข้างและช่วยให้คนอื่นๆสนใจในงานมากขึ้น ลองนึกดูดีๆ ถ้าทุกวันในบริษัทมีแต่การเม้าท์กัน นินทากัน ที่เกิดจากคนที่มีทัศนคติในทางลบทั้งนั้น คนที่ชอบก็จะไม่สนใจงาน มัวแต่ร่วมวงนินทา ส่วนคนที่ไม่ชอบ ก็จะประสาทเสียกับพฤติกรรมเหล่านี้ อย่าลืมว่าพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานและบรรยากาศที่ไม่ดีในริษัท แต่ถ้าพนักงานมีทัศนคติที่ดี ก็จะไม่ได้สนใจเสียงต่างๆเหล่านี้ เรียกว่าไม่ได้รู้เรื่องด้วยซ้ำ จะปฎิเสธการร่วมวงนินทา และช่วยทำให้บรรยากาศดีขึ้น ผมมักจะเรียกคนเหล่านี้ว่า “ตัวเปลี่ยนเกมส์” บ่อยครั้งคนเหล่านี้ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศมาคุเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น เช่นการเปลี่ยนความสนใจไปเรื่องอื่นๆ ชวนกันเที่ยว... Read more
ในประเทศไทย แฟรนไชส์ได้รับความนิยมมาก ทั้งผู้ขายแฟรนไชส์และผู้ซื้อแฟรนไชส์ ประโยชน์หลักของแฟรนไชส์คือการที่ได้รับการอบรมวิธีการประกอบธุรกิจนั้นๆ การดำเนินงาน และขั้นตอนการทำธุรกิจอย่างละเอียด ไม่ต้องเสี่ยงผิดพลาดในช่วงเริ่มต้นธุรกิจเนื่องจากผู้ขายแฟรนไชส์ได้วางระบบการดำเนินงานทั้งหมดไว้แล้ว รวมถึงมีกาสร้างแบรนด์และทำการตลาดไว้แล้ว แต่การลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ผู้ขายแฟรนไชส์ไม่สามารถการันตียอดขายหรือกำไรได้ ผู้ขายแฟรนไชส์เพียงแต่วางระบบการดำเนินงานและวิธีการประกอบธุรกิจไว้ให้ ดังนั้นบทความนี้จะเน้นเรื่องสิ่งที่ควรรู้ก่อน การซื้อแฟรนไชส์ วิธีการเลือกซื้อแฟรนไชส์ 1. ก่อนจะตัดสินใจเลือกแฟรนไชส์ ควรทำวิเคราะห์ตลาดก่อน โดยเริ่มจากตลาดที่สนใจ ดูความเป็นไปได้ของตลาด การเติบโต ความต้องการของตลาด แล้วค่อยๆทำให้ทางเลือกแคบลงเรื่อยๆ เช่น เริ่มจากอุตสาหกรรมอาหาร วิเคราะห์การเติบโตของตลาด แนวโน้มต่างๆ หรือแม้แต่พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า แล้วย่อยออกมาเป็นเครื่องดื่ม อาหารสด อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป แล้วจึงเลือกว่าจะทำธุรกิจอะไร อย่าลืมว่า การซื้อแฟรนไชส์ ก็เหมือนการทำธุรกิจทั่วไป คือต้องวิจัยตลาดและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆให้ดีก่อนที่จะทำการลงทุน 2. อย่าเลือกแฟรนไชส์จากข้อมูลเจ้าเดียว ควรหาว่ามีแฟรนไชส์กี่เจ้าในกลุ่มธุรกิจที่สนใจ แล้วขอเอกสารและรายละเอียดต่างๆจากทุกเจ้า เพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียต่างๆ การทำการตลาด การโฆษณา กิจกรรมส่งเสริมการขาย การขนส่งสินค้า การขำระเงิน หรือแม้แต่การบริการต่างๆ 3. ควรตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญาอย่างละเอียด และกฎเกณฑ์ต่างๆให้ดี และควรจะได้รับการรับรองจาก สมาคมธุรกิจแฟรนไชส์ไทย อย่างไรก็ตามควรจะตรวจสอบเรื่องต่างๆเหล่านี้ ได้แก่... Read more
ในโลกของธุรกิจ การเจรจาเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เป็นต่อหรือมีแต้มเหนือคนอื่น ดังนั้นการ การเจรจาต่อรองเงินเดือน ต้องมีการฝึกฝนและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี บทความนี้เสนอ 10 กฎเหล็กใน การเจรจาต่อรองเงินเดือน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้สมัครงาน และ ผู้ประกอบการ SMEs สามารถนำไปปรับใช้ในการเจรจาต่อรองได้ 1. อย่ายอมรับข้อเสนอเงินเดือนแรกที่บริษัทเสนอมาในการเจรจาต่อรองเงินเดือน 2. อย่าเปิดจำนวนเงินเดือนที่ต้องการก่อน ให้ทางบริษัทบอกช่วงเงินเดือนก่อน (ผมว่าพลาดกันประจำ T_T เพราะเป็นคำถามแรกๆที่โดนถามเลย) 3. จำไว้ว่าเราสามารถต่อรองอย่างอื่นมากกว่าเงินเดือนได้ในการเจรจาต่อรองเงินเดือน เช่น โบนัส หุ้น วันลา หรืออื่นๆที่สำคัญต่อเรา 4. พูดคุยกับคนรับสมัครงาน ส่วนมากคนรับสมัครงานเป็นมิตรกับเรา แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องงบอยู่เหมือนกัน เค้าจะเพิ่มงบประมาณได้ถ้าเค้าต้องการคุณจริงๆ ดังนั้นต้องแสดงข้อมูลต่างๆให้เห็นว่าทำไมคุณถึงต้องได้ค่าจ้างที่แตกต่างจากคนอื่น 5. จงฝึกการสนทนาที่ต้องใช้ใน การเจรจาต่อรองเงินเดือน เชื่อเถอะว่าการต่อรองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าฝึกมาดีแล้ว…ผ่านฉลุยแน่นอน (ถ้าไม่ฝึกมานะ ผมว่ามีตอบคำถามผิดๆถูกๆ โดนต้อนจนต้องยอมเลยล่ะ) 6. เตรียมข้อเสนอที่ใช้ในการตอบกลับให้ดี ควรคิดและวางแผนว่าถ้าทางบริษัทเสนอมาแบบนี้ เราควรต่อรองอย่างไร ตอบอย่างไร และเสนอกลับอย่างไร 7. คุณสามารถกำหนดเวลาในการต่อรอง เช่น พูดว่าคุณพบงานในฝันแล้ว... Read more
สิ่งที่ควรหยุดทำ ในปี 2015
SME Management 17/01/2015
มนุษย์เราต่างก็มีเหตุผลในการใช้ชีวิตหรือดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะการทำงานหรือการดำเนินธุรกิจ SMEs มีสไตล์ในการทำงาน การบริหาร และวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน ในบทความนี้จะกล่าวถึง สิ่งที่ควรหยุดทำในปี 2015 โดยสรุปสั้นๆได้ดังนี้ หยุดทำหลายๆอย่างพร้อมกัน บางครั้งการทำหลายๆอย่างพร้อมกัน ไม่ได้ช่วยให้เร็วขึ้นหรือมีประสิทธิภาพมากขึ้นเลย หยุดผลัดวันประกันพรุ่ง สิ่งที่ควรหยุดทำ เช่นเก็บงานไว้ทำพรุ่งนี้ หรือ รอมีอารมณ์หรือแรงบันดาลใจในการทำงานก่อนค่อยทำงาน หยุดดึงดันทำงานต่อ การดึงดันที่จะทำแม้จะคิดไม่ออก คือ สิ่งที่ควรหยุดทำ เพราะอาจจะเสียเวลามากเกินไปทั้งที่ไม่เกิดประโยชน์อะไร หยุดบ่นว่างานยุ่ง หรือบ่นเรื่องต่างๆเกี่ยวกับที่ทำงาน โดยเฉพาะใน Social media เพื่อนๆคงไม่อยากฟังการบ่นเท่าไหร่หรอก หยุดคิดว่าตัวเองเจ๋งตลอดเวลา มั่นใจตัวเองเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามั่นใจเกินไปจะทำให้ถอยหลังเข้าคลอง ไม่พัฒนาตัวเอง หยุดมองโลกในแง่บวกเกินไป มีงานวิจัยรายงานว่ามองโลกในแง่บวกมากเกินไปทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายสักที เช่น ปีนี้น่าจะไม่ใช่ปีของเรา หรือ ไม่เป็นไรเราทำเต็มที่แล้ว หยุดแสดงจุดแข็งของตัวเองมากเกินไป การที่มีจุดแข็งเป็นเรื่องดีแต่ถ้ามากไปอาจจะกลายเป็นจุดด้อยได้ หยุดให้ร้ายผู้อื่น การนินทาพูดเรื่องคนอื่นลับหลังนี่ว่าแย่แล้ว แต่การให้ร้ายผู้อื่นนี่แย่กว่า ยิ่งถ้าเป็นการทำธุรกิจด้วยแล้ว ไม่ควรให้ร้ายคู่แข่ง ควรจะแข่งขันด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดมากกว่าการทำลายกัน หยุดนั่งมากเกินไป ควรจะลุกเดินบ้าง หรือควรออกกำลังกายบ้าง จะก่อนทำงานหรือหลังเลิกงานก็ได้ อย่าลืมว่าถ้าร่างกายไม่แข็งแรง จะเอาแรงที่ไหนมาทำงานกันครับ หยุดอยู่แถวสาม... Read more
วันนี้มี Infographic มาฝากกันโดย Anna Vital จาก Funders and Founders เป็นผู้ทำขึ้นมา ซึ่งเป็น 18 สิ่งที่จะทำให้ การเริ่มต้นธุรกิจ ไปไม่รอด ได้แก่ ผู้ก่อตั้งคนเดียว ทำเลไม่ดี ตลาดเล็กเกินไป ไอเดียลอกแบบมา ดันทุรัง ดื้อรั้น มีโปรแกรมเมอร์ที่ไม่ดี เลือกแพลตฟอร์มผิด เปิดตัวสินค้าและบริการช้าไป เปิดตัวสินค้าและบริการเร็วไป ไม่มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เพิ่มเงินทุนน้อยไป ใช้จ่ายมากไป เพิ่มเงินทุนมากไป บริหารจัดการผู้ลงทุนได้ไม่ดีพอ หวังแต่กำไร ไม่ลงมือทำ ไม่ลุยงาน ผู้ก่อตั้งทะเลาะกันเอง ไม่กระตือรือร้น ไม่สนใจในงาน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจแต่ละประเภทอาจจะมีปัจจัยที่แตกต่างกัน ผู้ประกอบการ SMEs หรือผู้ที่สนใจ การเริ่มต้นธุรกิจ สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจแต่ละประเภทได้ #smeresearch #sme #business #AEC #วิจัย #วิจัยตลาด Source: Funders and Founders และ SME Research by MRSG... Read more
วันนี้มี Infographic มาฝากกันโดย Funders and Founders เป็นผู้ทำขึ้นมา วิธีการเริ่มต้นธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จ โดยเป็น วิธีการเริ่มต้นธุรกิจ ที่เป็นสูตรสำเร็จพอสมควรในต่างประเทศ คือเน้นการหาไอเดียสินค้าและบริการ เพื่อนำมาพัฒนาต่อจนออกมาเป็นสินค้าต้นแบบ (Prototype) แล้วจึงมีการทำวิจัยตลาดโดยใน Infographic จะแสดงสินค้าต้นแบบให้กลุ่มตัวอย่าง 100 คนเพื่อรับฟังไอเดียต่างๆ ปัญหา และข้อเสนอแนะจากกลุ่มตัวอย่าง แล้วจึงนำมาพัฒนาอีกครั้งจนสำเร็จออกมาเป็นสินค้าและบริการที่ต้องการ จากนั้นก็เริ่มหาผู้ร่วมธุรกิจเพื่อมาช่วยกันบริหารงาน โดยแบ่งหุ้นให้ผู้ร่วมก่อตั้ง 50% ต่อมาก็หาผู้ลงทุน โดยแบ่งหุ้นให้ผู้ลงทุน 10% เมื่อได้หุ้นส่วนครบถ้วนแล้วก็เริ่มผลิตสินค้าออกสู่ตลาด โดยสำหรับ SMEs สามารถตัดทอนบางขั้นตอนออกไปได้ แต่จะเห็นได้ว่ามีการทำวิจัยตลาด (Market Research) เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ โดยฟังเสียงจากกลุ่มเป้าหมาย รับฟังไอเดียต่างๆ ปัญหา และข้อเสนอแนะ แล้วนำมาพัฒนาสินค้าและบริการอีกครั้ง ดังนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ SMEs หรือผู้ที่เริ่มต้น ควรจะนำไปปรับใช้กับธุรกิจของท่านได้ อย่างไรก็ตาม การที่เราจะหาผู้ลงทุนแบบนี้นั้น สิ่งสำคัญคือการวางแผนธุรกิจไว้อย่างดีแล้ว จึงจะสามารถโน้มน้าวใจให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่าจะได้กำไรอย่างที่หวังไว้ และสิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างคือ... Read more
ในการทำธุรกิจ มีปัจจัยมากมายที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ทั้งด้านสินค้า การบริการ เทคโนโลยี เงินทุน แรงงาน กลยุทธ์ทางการตลาด การขาย และอื่นๆ ซึ่งผู้ประกอบการต่างคนต่างมุ่งไปที่ปัจจัยที่แตกต่างกัน แต่หลายท่านมักมองข้ามการ วิจัยตลาด ไป บางคนใช้ข้อมูลจาก Google แล้วพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึงวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดโดยที่อาจจะไม่ได้เข้าใจตลาดและกลุ่มลูกค้ามากนัก ดังนั้นบทความนี้จะแนะนำวิธีประสบความสำเร็จในธุรกิจด้วย วิจัยตลาด 1. ทำความเข้าใจลูกค้า ในขั้นตอนการพัฒนาสินค้าและบริการ สิ่งสำคัญมากที่สุด คือ การรู้ว่าใครคือลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของเรา ไม่ว่าจะเป็นสินค้าและบริการประเภทไหน ล้วนต้องมีกลุ่มเป้าหมายหลักและกลุ่มเป้าหมายรอง ไม่สามารถบอกได้ว่ากลุ่มลูกค้าคือทุกคนในประเทศ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มมีความต้องการแตกต่างกัน มีการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน มีพฤติกรรมการบริโภคไม่เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อเรากำหนดกลุ่มเป้าหมายแล้ว สิ่งที่ตามมาคือการทำความเข้าใจลูกค้า การวิจัยตลาด (Market Research) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถเข้าใจลูกค้าในเรื่องต่างๆดังต่อไปนี้ ข้อมูลประชากรศาสตร์ (Demographic) วิถีชีวิต การใช้ชีวิต (Lifestyle) พฤติกรรมของลูกค้า (Consumer Behaviors) พฤติกรรมการซื้อสินค้า (Buying Behaviors)... Read more
5 บทเรียนสำคัญจากมหาเศรษฐี
SME Management 06/01/2015
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ชีวิตคนเราจะประสบความสำเร็จ ยิ่งประสบความสำเร็จเป็นมหาเศรษฐีด้วยแล้ว อย่างไรก็ตามเราก็สามารถที่จะศึกษา บทเรียนสำคัญจากมหาเศรษฐี เพื่อนำมาปรับใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ได้ 1. อย่ายอมแพ้ ในชีวิตจริงกว่าที่มหาเศรษฐีจะ ประสบความสำเร็จได้ ต้องผ่านความพ่ายแพ้ ล้มเหลวมามากมาย บางคนถึงขั้นล้มละลายหรือเสียบริษัทที่ก่อตั้งมากับมือก็มี แต่เมื่อล้มแล้วลุก นำ บทเรียนสำคัญจากมหาเศรษฐี ที่เคยผิดพลาดมาใช้เป็นเกราะป้องกัน คุณธนินท์ เจียรวนนท์ (ซีพี) เวลาเลือกผู้บริหาร จะเลือกคนที่เคยล้มมาแล้ว เพราะจะระมัดระวังตั้งรับได้ดีในเวลาเกิดวิกฤติ หากเลือกคนที่ไม่เคยผิดพลาดมาก่อน การตั้งรับอาจจะไม่ดี เพราะคิดว่าจะประสบความสำเร็จอย่างเดียว หรือ Steve Job ก็ผ่านการล้มเหลวในชีวิตมาก่อน ถูกให้ออกจากบริษัทที่เค้าสร้างมา สุดท้ายเค้าก็ได้กลับมาที่ Apple แล้วทำให้บริษัทประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้ 2. ลงทุนระยะยาว ส่วนใหญ่เวลาเราคิดถึงการลงทุน จะมองการลงทุนระยะสั้นเพราะได้ผลลัพธ์เร็วกว่า Bill Gates กล่าวไว้ว่า “ส่วนใหญ่คนจะประมาณการณ์สิ่งที่ต้องทำ ใน 1 ปีไว้มากมาย แต่จะประเมินสิ่งที่ต้องทำใน 10 ปีไว้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น” มหาเศรษฐีหลายๆท่าน จะเน้นการลงทุนระยะยาว คาดการณ์และวิเคราะห์การลงทุนที่สามารถสร้างผลกำไรในระยะยาวได้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการลงทุนของมหาเศรษฐีจะเน้นการสร้างตลาด... Read more
