JavaScript must be enabled in order for you to see "WP Copy Data Protect" effect. However, it seems JavaScript is either disabled or not supported by your browser. To see full result of "WP Copy Data Protector", enable JavaScript by changing your browser options, then try again.

Thai SME Research

เปิดโลกธุรกิจ SMEs

ทำอย่างไรถึงโดนใจผู้ซื้อ? ทำอย่างไรถึงโดนใจผู้ซื้อ?
สำหรับคนที่ทำธุรกิจนั้น คำถามที่ว่า “ทำอย่างไรถึงโดนใจผู้ซื้อ” นั้นคงเป็นสิ่งที่ต้องเคยคำนึงถึงกันแน่นอน เพราะคำตอบนั้นคือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ สำหรับ SMEs แล้ว ปัจจัยบางส่วนที่พอนึกถึงกันก็มีหลายสิ่ง เช่น สินค้าดี มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม โปรโมชั่นโดนใจ โฆษณาไปถึงกลุ่มเป้าหมาย อาจจะมีตัวอย่างธุรกิจมากมายให้กล่าวถึง แต่บทความนี้ ทำอย่างไรถึงโดนใจผู้ซื้อ จะขอมาพูดถึง Unique Selling Point / Unique... ทำอย่างไรถึงโดนใจผู้ซื้อ?

สำหรับคนที่ทำธุรกิจนั้น คำถามที่ว่า “ทำอย่างไรถึงโดนใจผู้ซื้อ” นั้นคงเป็นสิ่งที่ต้องเคยคำนึงถึงกันแน่นอน เพราะคำตอบนั้นคือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ สำหรับ SMEs แล้ว ปัจจัยบางส่วนที่พอนึกถึงกันก็มีหลายสิ่ง เช่น สินค้าดี มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม โปรโมชั่นโดนใจ โฆษณาไปถึงกลุ่มเป้าหมาย อาจจะมีตัวอย่างธุรกิจมากมายให้กล่าวถึง แต่บทความนี้ ทำอย่างไรถึงโดนใจผู้ซื้อ จะขอมาพูดถึง Unique Selling Point / Unique Selling Proposition (USP) หรือจุดขาย ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การ Copy สินค้านั้นสามารถทำได้เร็วกว่า 3G

การกำหนด Unique Selling Point (USP) หรือจุดขายนั้น สำคัญที่สุดคือ ต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนเสียก่อน จากนั้นจึงทำการกำหนดจุดขาย เพื่อให้เข้าใจในรายละเอียดได้ง่าย จะขอเล่าเป็นเคสตัวอย่างที่ได้พบมา น่าจะสามารถทำให้เห็นภาพและนำไปปรับใช้กับธุรกิจกันได้มากขึ้น

เริ่มจากว่าผมได้เดินทางไปที่ประเทศจีนมา ซึ่งคราวนี้ไปกับทัวร์ หลายท่านคงพอทราบถึงนโยบายการท่องเที่ยวของจีนดี ที่จะต้องพาลูกทัวร์ไปซื้อสินค้าต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศ เช่น ยาสมุนไพร หรือ หยก ทีนี้เราลองมานึกกันครับว่าหากเราเป็นเจ้าของกิจการนี้ เราจะกำหนดจุดขายกันอย่างไร ทำอย่างไรถึงโดนใจผู้ซื้อ

สิ่งที่เค้าทำคือแบบนี้ครับ ผู้ขายสินค้าจะเริ่มบรรยายและเสนอการขายโดยใช้ Unique Selling Point (USP) หรือจุดขายของสินค้า ซึ่งเหมาะกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย โดยบางกลุ่มเป้าหมายอาจจะใช้ Unique Selling Point (USP) หรือจุดขายของสินค้าหลายอย่างประกอบกัน

  1. เรื่องราว (Story): การที่ทางผู้ขายสินค้านำเราเข้าสู่การขายด้วยการเล่าเรื่องราวของสินค้า
    • ถ้าเป็นหยก คือการอธิบายว่า หยกคืออะไร ต่างจากหินทั่วไปอย่างไร
    • ถ้าเป็นสมุนไพรจีน คือการอธิบายว่า สมุนไพรจีนมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ได้รับความนิยมมากี่พันปีแล้ว ใช้กันมาตั้งแต่ราชวงศ์ไหน
  2. แหล่งที่มา (Source or Country of origin): การที่ผู้ขายสินค้าเล่าถึงแหล่งที่มาที่พิเศษมาก หรือไม่มีที่ไหนสามารถผลิตแล้วมีคุณภาพทัดเทียมได้
    • ถ้าเป็นหยก คือการอธิบายว่า หยกที่ดีที่สุดมาจากไหน หยกแท้กับหยกปลอมแตกต่างกันอย่างไร
    • ถ้าเป็นสมุนไพรจีน คือการอธิบายว่า สมุนไพรของประเทศจีนนั้นดีอย่างไร ทำไมถึงได้รับความนิยมและการยอมรับจากนานาประเทศ
  3. ประโยชน์ (Benefit): การที่ผู้ขายสินค้าเล่าถึงประโยชน์ หรือ คุณสมบัติของสินค้า
    • ถ้าเป็นหยก คือการอธิบายว่า ประโยชน์ของหยกมีอะไรบ้าง คุณสมบัติของหยกที่ดีเป็นอย่างไร ความสวยงามดูได้จากอะไร
    • ถ้าเป็นสมุนไพรจีน คือการอธิบายว่า คุณสมบัติของสมุนไพรแต่ละตัวเป็นอย่างไร ซึ่งจะแนะนำต่างกันขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมาย หากเป็นผู้ชายสูงวัย อาจจะแนะนำสมุนไพรเพื่อเสริมสมรรถภาพทางเพศ  หากเป็นผู้หญิงสูงวัย ก็จะแนะนำสมุนไพรเพื่อบำรุงผิว  หรือหากเป็นผู้สูงอายุ ก็จะแนะนำสมุนไพรเพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยหรือโรคเฉพาะ
  4. ความเชื่อ (Belief): การเล่าถึงความเชื่อ ตำนาน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับทางศาสนา ทางจิตวิญญาณ หรือทางวัฒนธรรมที่เล่าต่อๆ กันมา
    • ถ้าเป็นหยก คือการอธิบายว่า คนโบราณเชื่อว่าจะช่วยดูดสารพิษออกจากร่างกาย ควรจะใส่ที่ข้อมือ หรือตรงหัวใจ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
    • ถ้าเป็นสมุนไพรจีน คือการอธิบายว่า คนโบราณเชื่อว่าสมุนไพรจีนเป็นการยาบำรุงที่ทานกันมานาน เป็นยาอายุวัฒนะ จากนั้นยัังสามารถใช้ความเชื่อในการอธิบายไปตามแต่สมุนไพรแต่ละตัว
  5. วิถีชีวิต (Lifestyle): การเล่าให้เห็นภาพถึงการใช้ชีวิต หรือวิถีที่ชีวิตที่มีความจำเป็นต้องใช้สินค้านั้นๆ
    • ถ้าเป็นหยก คือการอธิบายว่า ลูกค้าสามารถใส่หยกได้ในชีวิตประจำวัน เป็นจี้ หรือ ต่างหู แบบทันสมัย เข้ากับการแต่งกายได้ง่าย
    • ถ้าเป็นสมุนไพรจีน คือการอธิบายว่า การใช้ชีวิตที่รีบเร่งแบบคนเมือง การไม่ออกกำลังกาย หรือกินอาหารไม่ครบหมู่ อาจจะส่งผลให้เกิดโรคต่างๆได้ สมุนไพรจีนจะช่วยทำให้การใช้ชีวิตมีคุณภาพขึ้น
  6. ความกลัว (Fear): การเล่าถึงผลที่ไม่ซื้อสินค้าจากที่นี่ หรือการไม่ใช้สินค้า เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายหันมาสนใจสินค้า
    • ถ้าเป็นหยก คือการอธิบายว่าหยกที่ขายอยู่ตามท้องถนน เสี่ยงที่จะพบกับสินค้าปลอม หยกฉีดสี หรือมีคุณภาพต่ำ ต่างกับหยกที่ขายอยู่ซึ่งได้รับการรับรองแล้วว่าเป็นหยกแท้ มีคุณภาพ
    • ถ้าเป็นสมุนไพรจีน คือการอธิบายว่า สุขภาพร่างกายสำคัญกว่าเงิน ถ้าหาเงินมาแล้วไม่ใช้บำรุงร่างกาย ตายไปก็ไม่ได้ใช้เงิน เป็นต้น

ที่กล่าวมาเป็นเพียงการยกตัวอย่างบางส่วน เพื่อให้เห็นภาพของการกำหนด Unique Selling Point (USP) หรือจุดขายของสินค้า ซึ่งมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถใช้เป็นจุดขายได้

หากเราลองเปลี่ยนสินค้ามาเป็นข้าว อาจกำหนดจุดขายได้หลายแบบ เช่น การปลูกบนที่ราบลุ่มที่อุดมสมบูรณ์ หรือปลูกด้วยวิธีธรรมชาติ ไร้สารเคมี เป็นพันธุ์ข้าวที่หายาก หรือเป็นข้าวพันธุ์ที่ให้สารอาหารและวิตามินมากกว่าข้าวพันธุ์อื่นๆ

หรือหากเราลองเปลี่ยนสินค้าเป็นเสื้อผ้า อาจกำหนดจุดขายว่ามาจากที่ดีไซน์เนอร์คลื่นลูกใหม่ที่กำลังมีชื่อเสียงในต่างแดน เป็นเสื้อผ้าที่ออกแบบพิเศษโดยศิลปินที่มีจำหน่ายเป็น limited edition หรือมีเทคโนโลยีพิเศษในการถักทอเพื่อให้เสื้อใส่สบาย ไม่ร้อน เป็นต้น

ท้ายที่สุดแล้ว Unique Selling Point (USP) หรือจุดขาย จะไม่เป็นผลเลย หากสิ่งที่เรากำหนดขึ้น ไม่ใช่เรื่องจริง หรือเกินจริง เพราะจุดขายเหล่านี้จะเป็นการสร้างความคาดหวัง (Expectation) ให้กับผู้บริโภค ซึ่งถ้าผู้บริโภครับรู้ว่าเป็นเรื่องไม่จริง จะส่งผลให้ไม่พึงพอใจในสินค้า (Dissatisfaction) และก็จะนำเรื่องราวที่ไม่ดีไปบอกต่อ (Negative Word of mouth) ส่งผลให้ได้รับความเสียหายต่อตราสินค้าและชื่อเสียงอย่างแน่นอน

#smeresearch #sme #business #AEC #วิจัย #วิจัยตลาด

Source: SME Research by MRSG Co.,Ltd.

Comments

comments