ธุรกิจครอบครัว (Family Business) เป็นคำที่หลายท่านคงคุ้นเคยกัน โดยเฉพาะท่านที่เป็นลูกหลานของครอบครัวที่ประกอบธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ SMEs หรือ ธุรกิจขนาดใหญ่ ส่วนมากแล้วเรามักจะเห็นตัวอย่างการรับช่วงธุรกิจจากครอบครัวมาพัฒนาต่อจนประสบความสำเร็จ แต่แน่นอน ก็มีบางส่วนที่ไม่ชอบ ไปไม่รอดกับธุรกิจครอบครัวจนต้องถอนตัวออกมา ซ้ำร้ายบางคนรับช่วงมาบริหารจนธุรกิจเดิมพังจนไม่เป็นท่า แถมครอบครัวยังมีปัญหา บทความนี้จะแนะนำ Tips ในการรรับช่วงต่อธุรกิจครอบครัว ว่าทำอย่างไรจะรับช่วงและดำเนินการต่่อได้อย่างประสบความสำเร็จ 1. พูดคุยกันให้เข้าใจ การสื่อสาร คือ เครื่องมือที่จะทำให้การดำเนินงานราบรื่น และปัญหาถูกแก้ได้อย่างรวดเร็ว ปัญหาสำคัญของการทำธุรกิจครอบครัว คือ ความไม่เข้าใจกัน ไม่ว่าจะเป็น ความต้องการ มุมมอง ทัศนคติ หรือ แม้แต่วิธีการทำงาน นอกจากนั้น การทำธุรกิจกับครอบครัว มักดำเนินงานด้วยอารมณ์ ความรู้สึก และ ความเกรงใจในลำดับอาวุโส เช่น พ่อเป็นใหญ่ ลูกต้องฟังพ่อแม่ หรือ น้องต้องให้พี่เป็นคนตัดสินใจ ทั้งที่จริงแล้ว การส่งต่อธุรกิจ จะต้องมีความเข้าใจ สามารถแชร์ประสบการณ์หรือการตัดสินใจร่วมกันได้ การพูดคุยหรือการสื่อสาร... Read more
เคยสังเกตุหรือไม่ ว่าทำไมบางองค์กร พนักงานดู Active ในการทำงาน บางองค์กร พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ หรือแม้แต่บางองค์กร มีแต่พนักงานขี้เกียจ คิดลบ เอาเปรียบ เห็นแก่ตัว ผมมีโอกาสได้ทำงานกับหลายๆองค์กร และพูดคุยกับเพื่อนๆ ได้เห็นถึงพลังของวัฒนธรรมองค์กร (Organization Culture) ว่าส่งผลต่อทัศนคติ แรงจูงใจ และประสิทธิภาพในการทำงานมากขนาดไหน บางครั้งเล่าตัวอย่างดีดี อาจไม่เห็นภาพขอยกตัวอย่างองค์กรหนึ่ง ครั้งแรกที่ได้พูดคุยงานด้วย ก็รับรู้ถึงความเอาเปรียบเอาแต่ได้ ซึ่งผมคิดว่าเป็นเฉพาะบุคคล แต่พอได้พบหลายๆท่าน ก็พบว่าเป็นแบบนี้กันหมด พอสืบเสาะไป ก็พบว่าเหตุผลที่ทำให้เป็นแบบนี้ เพราะผู้นำขององค์กรนี้เป็นแบบนี้นั่นเอง ดังนั้นลองนึกถึงองค์กรที่ดี ก็พบว่าผู้นำขององค์กรนั้น รวมถึง Organization Culture กำหนดให้พนักงานเป็นแบบที่ต้องการให้เป็น มีผลตั้งแต่การคัดสรรบุคคลากร (Recruitment) การสร้างบรรยากาศในการทำงาน (Environment) การฝึกและอบรม (Training) รวมถึงการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน ขอยกตัวอย่าง Facebook องค์กรที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ บริการอาหารมากมาย ซักรีด พื้นที่ในการทำงานมากมาย... Read more
เมื่อเราจะเริ่มต้นธุรกิจ SMEs โดยมากสิ่งที่เราจะเตรียมพร้อมและวางแผน นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับสินค้าและบริการ กลยุทธ์ทางการตลาด หรือการสื่อสารทางการตลาด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรมีการวางแผนและเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี แต่มีอีก 2 สิ่งที่ผู้ประกอบการควรจะนึกถึง คือ Productivity และ การควบคุมค่าใช้จ่าย (Cost-control) การควบคุมค่าใช้จ่าย (Cost-control) สำหรับ SMEs ด้วยข้อจำกัดของเงินทุนและบุคลากร ทำให้ SMEs ต้องมีการวางแผนเงินทุน การลงทุนต่างๆ และเงินหมุนเวียนไว้เป็นอย่างดีเพื่อมิให้ขาดสภาพคล่อง การควบคุมค่าใช้จ่าย เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ SMEs สามารถบริหารเงินทุนที่มีอยู่จำกัดเกิดประโยชน์สูงสุด โดยการควบคุมค่าใช้จ่าย (Cost-control) นั้นเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการตั้งแต่ค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่ากระดาษ ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าเดินทาง เงินเดือนพนักงาน และการบริการอื่นๆ ไม่ว่าเราจะมีรายรับมากเท่าไร แต่ถ้าหากค่าใช้จ่ายทำให้เงินไหลออกหมด ก็จะเกิดปัญหาในการดำเนินธุรกิจได้ ในธุรกิจขนาดใหญ่ การลดค่าใช้จ่าย รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายลง เช่นการออกแบบขวดและปรับปรุงการขนส่งใหม่เพื่อให้ลดค่าใช้จ่ายการขนส่งสินค้า หรือการใช้สินค้าและอุปกรณ์ในออฟฟิตต่างที่ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย... Read more
ไอเดียธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจ ถ้าไม่ได้มีการวางแผนหรือปรับให้เข้ากับตลาด ประเภทสินค้าและบริการ มันก็เป็นได้แค่แผนที่ดูสวยหรู เรามาลองดูครับ ว่าทำอย่างไร ไอเดียธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจ ถึงจะเจ๋งที่สุด 1. ลองขายดูก่อน ส่วนใหญ่เวลาเรามี ไอเดียธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจ เจ๋งๆ เรามักจะคิดเรื่องการผลิตการสร้างสินค้าและบริการให้สำเร็จก่อน แล้วค่อยวางแผนการตลาด และเริ่มวางสินค้าและบริการออกสู่ตลาด……..แล้วถ้าไม่สำเร็จล่ะ ผมว่าคงต้องไม่ต้องบอกถึงความพินาศของธุรกิจและเงินลงทุน ดังนั้นเวลาเรามีไอเดียธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจเจ๋งๆ ให้ลองหามาขายดูก่อน หรือคิดเรื่องการขายสินค้าหรือบริการอย่างไรให้เป็นอันดับแรกๆ (Market Test) ถ้าขายดีหรือลูกค้าชื่นชอบ จึงลงทุนเรื่องการผลิตต่อไป 2. อย่าลืมทำความรู้จักกับตลาด เราเป็นเพียงผู้เข้ามาขายสินค้าและบริการในตลาดนี้ ดังนั้นอย่าลืมที่จะทำวิจัยตลาด วิเคราะห์คู่แข่ง รวมถึงสินค้าและบริการในตลาดทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีไอเดียธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจ เป็นที่ต้องการของตลาด (Market Demand) ฟังเสียงจากลูกค้า ฟังเสียงจากผู้ผลิต ฟังเสียงจากพ่อค้าในตลาด และฟังเสียงผู้ร่วมงานของเรา อย่าลืมว่าทุกคนในตลาดล้วนส่งผลต่อธุรกิจของเรา 3. วางแผนทางการเงินให้ครบทุกด้าน จากความผิดพลาดของหลายๆธุรกิจ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะวางแผนทางการเงินด้านรายได้ นอนฝันไปกับยอดขายและกำไรที่วาดฝันไว้ ทั้งการ Forecast sales และการวางแผนการเติบโตของธุรกิจ แต่ละเลยวางแผนการลงทุน... Read more
ด้วยโลกในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบบที่ทำแทนงานประจำ หรือทำเป็นอาชีพเสริม การเริ่มต้นธุรกิจ..ใหม่ นั้นเป็นสิ่งที่คนใน generation นี้ใฝ่ฝัน โลกของการทำธุรกิจนั้นดูหอมหวาน ด้วยความเชื่อที่ว่า การทำธุรกิจนั้นดี เพราะไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร ได้จัดสรรเวลาต่างๆ ได้สะดวก เพราะเป็นเจ้านายของตัวเอง มีอิสระทางความคิด และมีโอกาสที่จะร่ำรวยได้มากกว่าการทำงานประจำ จึงไม่น่าแปลกใจ ว่าทำไมหากเราเดินไปยังแผงหนังสือในปัจจุบัน ชั้นหนังสือขายดีนอกจากจะเป็นเรื่องการลงทุนในหุ้นแล้ว ยังเป็นเรื่อง start up business เป็นส่วนใหญ่ แต่ก่อนที่จะกระโจนเข้าไปหาความฝัน ยังมีบางสิ่งที่เราควรจะ “รู้” ก่อนที่จะ “เริ่ม” ทำธุรกิจเสียก่อน เพื่อให้การตัดสินใจในการทิ้ง passive income นั้น เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า 1. รู้จักคิด ความแปลกใหม่ ความแตกต่าง ความไม่เหมือนใคร เป็นสิ่งสำคัญใน การเริ่มต้นธุรกิจ ในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ธุรกิจใหม่ที่ยังไม่มีคนริเริ่ม แต่สำหรับธุรกิจที่มีอยู่แล้ว หากเราต้องการที่จะเข้าไปร่วมสนามด้วย การคิดถึงจุดขายที่แตกต่างเป็นสิงที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจมาทดลองสินค้า และเกิดการซื้อขาย ซึ่งการคิด ไม่สามารถหยุดได้แค่จุดเริ่มต้น เพราะตลาดมีการเปลียนแปลง ลูกค้ามีการพัฒนา และการแข่งขันไม่เคยหยุดนิ่ง หากคิดจะเป็นผู้ประกอบการแล้ว จะต้องมีการคิด การพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัว กับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้อยู่เสมอ 2.... Read more
ช่วงหลังๆ ผมได้คุยกับผู้ประกอบการหลายๆท่าน ที่ขยับจากงานประจำมาเป็นเจ้าของธุรกิจ พบว่ามีปัญหาในการปรับตัวพอสมควร เช่นการเปลี่ยนสถานะจากลูกจ้างมาเป็นนายจ้าง ทำให้บางท่านอาจจะปรับตัวได้ไม่ดีพอ บางท่านเผลอกระทำบางสิ่งที่ไม่ควรทำ บางท่านอาจจะหลงใหลในอำนาจไป จนทำให้การบริหารงานไม่เป็นอย่างที่ควรเป็น ผมได้อ่านบทความจาก KEVIN DAUM จึงนำมาเขียนบทความแนะนำ 8 นิสัยที่เจ้านายที่ดีควรมี 1. ฟัง อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เมื่อเราเปลี่ยนมาเป็นนายจ้าง เราอาจจะพูดได้มากขึ้น มีอำนาจมีสิทธิเต็มที่ในการพูด การสั่งงาน หรือการแนะนำสิ่งต่างๆ นิสัยที่เจ้านายที่ดีควรมี คือ การฟัง เจ้านายที่ดี ควรจะรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆจากลูกน้อง ควรให้ลูกน้องเสนอหรือรายงานแผนต่างๆอย่างเต็มที่ แล้วค่อยคิด วิเคราะห์ แล้วจึงให้ข้อเสนอแนะ อย่าลืม ว่าเราควรจ้างพนักงาน “มาคิดและทำงาน” ไม่ใช่มาทำตามเราสั่ง 2. ใส่ใจ นิสัยที่เจ้านายที่ดีควรมี คือ ใส่ใจและเห็นอกเห็นใจ เจ้านายที่ดี ควรใส่ใจความเป็นอยู่ของพนักงาน ควรจะมีความเห็นอกเห็นใจและเป็นที่พึ่งของลูกน้องได้ การที่บริษัทจะเติบโตได้ ไม่ใช่เพียงใช้เงินจ้างเท่านั้น แต่ต้องให้ใจกับพนักงานด้วย เจ้านายอยากให้ลูกน้องทุ่มเทให้กับการทำงาน ลูกน้องก็อยากให้เจ้านายใส่ใจ... Read more
ในการดำเนินธุรกิจ SMEs การเจรจาต่อรองเป็นสิ่งที่สำคัญในการได้มาซึ่งผลประโยชน์ต่างๆ ทั้งการขาย การเสนอราคา การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ หรือแม้แต่การเจรจาต่อรองเงินเดือน การเจรจาต่อรองที่ดีที่สุด คือ การที่ได้ผลประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย (win-win) อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่าการเจรจาต่อรอง คงไม่ง่ายที่จะให้ผลการเจรจาออกมาสมประโยชน์อย่างที่ต้องการ บทความนี้ ผมจะแนะนำ 5 วิธีสร้างความเป็นต่อใน การเจรจาต่อรองธุรกิจ 1. รู้ว่าต้องการอะไร ผมว่าหลายๆครั้ง เราเจรจาต่อรองเพียงเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากที่สุด เป็นการเจรจาโดยรวมทั้งหมด ซึ่งอาจจะทำให้เราพลาดท่าเสียทีได้ ขั้นตอนพื้นฐานที่สุด คือ เราต้องรู้ว่าเราต้องการอะไร จุดประสงค์ของการเจรจาคืออะไร เช่น ต้องการขายสินค้าที่ราคา 2,000,000 บาท หรือ ต้องการ Credit terms 90 วัน หรือต้องการให้ลูกค้ารับข้อเสนออย่างไร เราควรจะกำหนดตัวเลขที่ชัดเจนหรือจุดหมายที่ชัดเจน เพื่อช่วยให้เราสามารถวางแผนการเจรจา คำพูดหว่านล้อม เหยื่อล่อ แนวทางการปฏิเสธ หรือตัวเลขขั้นต่ำที่ยอมรับได้ 2.... Read more
การบริการ เป็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังนอกเหนือจากผลิตภัณฑ์หรือการบริการต่างๆ เราจะเห็นได้ว่าหลายๆเคสที่ลูกค้าแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการไม่พอใจในการบริการ ทั้งจากการสื่อสาร การแสดงออก หรือคำพูดที่พนักงานในการบริการ ยิ่งในเคสที่ลูกค้าไม่พอใจในสินค้าหรือบริการ ยิ่งต้องรับมือด้วยความระมัดระวัง ผู้ประกอบการ SMEs ควรจะให้ความสำคัญในการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย รวมถึงการรับมือลูกค้าไม่พอใจในสินค้าหรือบริการ บทความนี้จะแนะนำ วิธีการรับมือลูกค้าไม่พอใจในสินค้าหรือบริการ 1. อย่าโต้เถียง ให้รับฟัง ข้อนี้สำคัญเป็นอันดับแรกเลย แค่เพียงเราโต้เถียงลูกค้า เรื่องจะลุกลามใหญ่ตำแกว่าที่ควรจะเป็น อย่าลืมว่าลูกค้าไม่พอใจในสินค้าหรือบริการ ต้องการที่จะร้องเรียนหรือหาทางแก้ไข (แม้ว่าจะร้องเรียนด้วยอารมณ์บ้าง) วิธีการรับมือลูกค้าไม่พอใจในสินค้าหรือบริการ คือ พนักงานควรจะรับฟังให้ครบถ้วน เพื่อที่จะวิเคราะห์ว่าเหตุเกิดจากอะไร สินค้าบกพร่องเช่นไร การบริการผิดพลาดตรงไหน 2. อย่ารีบปฏิเสธ หรือหาข้ออ้าง การที่ลูกค้าร้องเรียนมา นอกจากการแจ้งให้ทราบถึงข้อบกพร่อง ปัญหาของสินค้าหรือบริการ และเหตุแห่งการไม่พอใจในเรื่องต่างๆ ลูกค้าต้องการความรับผิดชอบ ดังนั้นอย่ารีบปฏิเสธหรือหาข้ออ้าง การปฎิเสธว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของบริษัท หรือการหาข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิด ทำให้ความไม่พอใจยิ่งเพิ่มมากขึ้น ทางที่ดีพนักงานควรหาทางร่วมกันแก้ไขปัญหานั้นให้ดีที่สุด 3. สุภาพ และควบคุมอารมณ์ให้มากที่สุด ระหว่างการสนทนา หรือรับข้อร้องเรียน ไม่ว่าลูกค้าจะโมโหหรือพูดจาไม่ดีอย่างไร... Read more