JavaScript must be enabled in order for you to see "WP Copy Data Protect" effect. However, it seems JavaScript is either disabled or not supported by your browser. To see full result of "WP Copy Data Protector", enable JavaScript by changing your browser options, then try again.

Thai SME Research

เปิดโลกธุรกิจ SMEs

ความแตกต่างระหว่าง คนที่ประสบความสำเร็จ กับสำเร็จมาก!
ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆจากชีวิตและประสบการณ์ของผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญที่เราสามารถปรับข้อคิดต่างๆมาใช้ในการพัฒนาตนเอง ซึ่งเราสามารถเรียนรู้ได้ทั้งจากคนที่ล้มเหลวมาก่อน คนที่ประสบความสำเร็จ และคนที่ประสบความสำเร็จมาก หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าระหว่างคนที่ “ประสบความสำเร็จ” และคนที่ “ประสบความสำเร็จมาก” ต่างกันอย่างไร มีวิธีคิดต่างกันอย่างไร บทความนี้ Greg McKeown จาก LinkedIn ได้อธิบายความแตกต่างไว้ดังต่อไปนี้ 1. คนที่ประสบความสำเร็จมักจะพูดว่า “ถ้าฉันหาเวลาทำได้ ฉันจะทำ” แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากมากมักจะ “เลือกทำ” Warren Buffet เคยกล่าวไว้ว่าความแตกต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จ กับคนที่ประสบความสำเร็จมาก คือคนที่ประสบความสำเร็จมากมักจะปฏิเสธทุกสิ่งอย่าง แต่การปฏิเสธนี้ไม่ใช่การไม่ทำ แต่เป็นการเลือกทำในสิ่งที่วางแผนไว้ และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ตามที่วางแผนไว้ 2. คนที่ประสบความสำเร็จนอนพักผ่อนเพียง 4 ชั่วโมงต่อคืน แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากมันจะนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ มีงานวิจัยจาก K. Anders Ericsson พบว่านักไวโอลินที่ดีที่สุดใช้เวลาในการฝึกฝนมากกว่า และพักผ่อนนานกว่า โดยเฉลี่ย 8.6 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าการน้อยหลับน้อยๆ การทำงานหนัก หามรุ่งหามค่ำ อดหลับอดนอนไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการทำงาน แต่เป็นการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพต่างหาก ดังนั้นจึงควรมีการวางแผนในการทำงาน รวมถึงควรกำหนดเวลาในการทำงานและการพักผ่อน 3. คนที่ประสบความสำเร็จคิดว่าการเล่นนั้นเสียเวลา แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากมากมองการเล่นเป็นบ่อเกิดของความคิดสร้างสรรค์... Read more
เหตุผลที่ควรเลือกจ้างพนักงานจาก ทัศนคติ (Attitude)
ในองค์กรหรือบริษัทต่างๆ ประกอบด้วยคนมากมาย ต่างนิสัย ต่างคุณสมบัติ ต่างการแสดงออก และต่างความรู้ความสามารถ เป็นที่ถกเถียงกันมานานว่า เราควรเลือกจ้างพนักงานจากอะไร ความรู้ความสามารถ? ปริญญา? มหาวิทยาลัย? ลักษณะส่วนตัว? หรือ ทัศนคติ? มีผลการวิจัยแสดงว่า ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional intelligence) มีผลต่อความเป็นผู้นำและองค์กร กล่าวคือ ถ้าขาดความฉลาดทางอารมณ์ ก็ส่งผลต่อความล้มเหลวในการบริหาร แล้วถ้าเป็นพนักงานล่ะ ทัศนคติ (Attitude) ส่งผลต่อการทำงานได้อย่างไร บทความนี้จะกล่าวถึง เหตุผลที่ควรเลือกจ้างพนักงานจาก ทัศนคติ (Attitude) 1. พวกเขาจะไม่สนใจเสียงรอบข้างและช่วยให้คนอื่นๆสนใจในงานมากขึ้น ลองนึกดูดีๆ ถ้าทุกวันในบริษัทมีแต่การเม้าท์กัน นินทากัน ที่เกิดจากคนที่มีทัศนคติในทางลบทั้งนั้น คนที่ชอบก็จะไม่สนใจงาน มัวแต่ร่วมวงนินทา ส่วนคนที่ไม่ชอบ ก็จะประสาทเสียกับพฤติกรรมเหล่านี้ อย่าลืมว่าพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานและบรรยากาศที่ไม่ดีในริษัท แต่ถ้าพนักงานมีทัศนคติที่ดี ก็จะไม่ได้สนใจเสียงต่างๆเหล่านี้ เรียกว่าไม่ได้รู้เรื่องด้วยซ้ำ จะปฎิเสธการร่วมวงนินทา และช่วยทำให้บรรยากาศดีขึ้น ผมมักจะเรียกคนเหล่านี้ว่า “ตัวเปลี่ยนเกมส์” บ่อยครั้งคนเหล่านี้ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศมาคุเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น เช่นการเปลี่ยนความสนใจไปเรื่องอื่นๆ ชวนกันเที่ยว... Read more
5 วิธีดูดเงินเรามากขึ้นใน ซูเปอร์มาร์เก็ต (Video)
มาดูกันดีกว่าว่าวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เราใช้จ่ายมากขึ้นใน ซูเปอร์มาร์เก็ต Source: Businessinsider Image Credit: pedro veneroso Read more
รู้หรือไม่! สี กลิ่น เสียง สัมผัส ช่วย กระตุ้นยอดขาย ได้ (Infographic)
จากผลการวิจัย 95% ของลูกค้า “ไม่ได้คิดมาก่อน” ว่าจะซื้อสินค้าหรือบริการ มีเพียง 5% เท่านั้นที่มีการคิดหรือวางแผนมาก่อน ดังนั้นนักการตลาดจึงต้องกำหนดกลยุทธ์ที่สามารถดึงดูดลูกค้าให้ซื้อสินค้าและบริการได้ โดยเฉพาะในชั้นวางสินค้า หรือจุดแสดงสินค้าต่างๆ โดย Kissmetrics ได้วิจัยว่า การมองเห็น (Visual) จูงใจให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการถึง 93% ส่วนการสัมผัส 6% และเสียง/กลิ่น เพียง 1% เท่านั้น ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่ากลิ่น สี เสียง สัมผัส กระตุ้นยอดขาย ได้ มาดูกันว่านักการตลาดจะ กระตุ้นยอดขาย ได้อย่างไร 1. สี (Color) สามารถสื่ออารมณ์และความรู้สึกได้ เช่น สีฟ้า=การต้อนรับ, สีเขียว=ธรรมชาติ, สีแดง=อันตรายหรือความเร่งด่วน, สีเหลือง=ความสุข สามารถดึงดูดประเภทของผู้ซื้อสินค้าที่แตกต่างกันได้ เช่น สีแดง/ดำ/ส้ม/นำเงิน จะกระตุ้นการซื้อกับลูกค้าที่ชอบซื้อแบบฉับพลัน สีเขียวอ่อน/ชมพู/ฟ้าอ่อน/น้ำเงินเข้ม จะกระตุ้นการซื้อกับลูกค้าที่วางแผนงบประมาณในการซื้อ สีฟ้าอ่อน/ชมพู/ชมพูกุหลาบ จะกระตุ้นการซื้อกับลูกค้าที่ยอมทำตามกฎเกณฑ์ต่างๆ ตามน้ำ... Read more
สิ่งที่ควรรู้ก่อน การซื้อแฟรนไชส์
ในประเทศไทย แฟรนไชส์ได้รับความนิยมมาก ทั้งผู้ขายแฟรนไชส์และผู้ซื้อแฟรนไชส์ ประโยชน์หลักของแฟรนไชส์คือการที่ได้รับการอบรมวิธีการประกอบธุรกิจนั้นๆ การดำเนินงาน และขั้นตอนการทำธุรกิจอย่างละเอียด ไม่ต้องเสี่ยงผิดพลาดในช่วงเริ่มต้นธุรกิจเนื่องจากผู้ขายแฟรนไชส์ได้วางระบบการดำเนินงานทั้งหมดไว้แล้ว รวมถึงมีกาสร้างแบรนด์และทำการตลาดไว้แล้ว แต่การลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ผู้ขายแฟรนไชส์ไม่สามารถการันตียอดขายหรือกำไรได้ ผู้ขายแฟรนไชส์เพียงแต่วางระบบการดำเนินงานและวิธีการประกอบธุรกิจไว้ให้ ดังนั้นบทความนี้จะเน้นเรื่องสิ่งที่ควรรู้ก่อน การซื้อแฟรนไชส์ วิธีการเลือกซื้อแฟรนไชส์ 1. ก่อนจะตัดสินใจเลือกแฟรนไชส์ ควรทำวิเคราะห์ตลาดก่อน โดยเริ่มจากตลาดที่สนใจ ดูความเป็นไปได้ของตลาด การเติบโต ความต้องการของตลาด แล้วค่อยๆทำให้ทางเลือกแคบลงเรื่อยๆ เช่น เริ่มจากอุตสาหกรรมอาหาร วิเคราะห์การเติบโตของตลาด แนวโน้มต่างๆ หรือแม้แต่พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า แล้วย่อยออกมาเป็นเครื่องดื่ม อาหารสด อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป แล้วจึงเลือกว่าจะทำธุรกิจอะไร อย่าลืมว่า การซื้อแฟรนไชส์ ก็เหมือนการทำธุรกิจทั่วไป คือต้องวิจัยตลาดและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆให้ดีก่อนที่จะทำการลงทุน 2. อย่าเลือกแฟรนไชส์จากข้อมูลเจ้าเดียว ควรหาว่ามีแฟรนไชส์กี่เจ้าในกลุ่มธุรกิจที่สนใจ แล้วขอเอกสารและรายละเอียดต่างๆจากทุกเจ้า เพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียต่างๆ การทำการตลาด การโฆษณา กิจกรรมส่งเสริมการขาย การขนส่งสินค้า การขำระเงิน หรือแม้แต่การบริการต่างๆ 3. ควรตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญาอย่างละเอียด และกฎเกณฑ์ต่างๆให้ดี และควรจะได้รับการรับรองจาก สมาคมธุรกิจแฟรนไชส์ไทย อย่างไรก็ตามควรจะตรวจสอบเรื่องต่างๆเหล่านี้ ได้แก่... Read more
10 กฎเหล็กใน การเจรจาต่อรองเงินเดือน
ในโลกของธุรกิจ การเจรจาเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เป็นต่อหรือมีแต้มเหนือคนอื่น ดังนั้นการ การเจรจาต่อรองเงินเดือน ต้องมีการฝึกฝนและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี บทความนี้เสนอ 10 กฎเหล็กใน การเจรจาต่อรองเงินเดือน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้สมัครงาน และ ผู้ประกอบการ SMEs สามารถนำไปปรับใช้ในการเจรจาต่อรองได้ 1. อย่ายอมรับข้อเสนอเงินเดือนแรกที่บริษัทเสนอมาในการเจรจาต่อรองเงินเดือน 2. อย่าเปิดจำนวนเงินเดือนที่ต้องการก่อน ให้ทางบริษัทบอกช่วงเงินเดือนก่อน (ผมว่าพลาดกันประจำ T_T เพราะเป็นคำถามแรกๆที่โดนถามเลย) 3. จำไว้ว่าเราสามารถต่อรองอย่างอื่นมากกว่าเงินเดือนได้ในการเจรจาต่อรองเงินเดือน เช่น โบนัส หุ้น วันลา หรืออื่นๆที่สำคัญต่อเรา 4. พูดคุยกับคนรับสมัครงาน ส่วนมากคนรับสมัครงานเป็นมิตรกับเรา แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องงบอยู่เหมือนกัน เค้าจะเพิ่มงบประมาณได้ถ้าเค้าต้องการคุณจริงๆ ดังนั้นต้องแสดงข้อมูลต่างๆให้เห็นว่าทำไมคุณถึงต้องได้ค่าจ้างที่แตกต่างจากคนอื่น 5. จงฝึกการสนทนาที่ต้องใช้ใน การเจรจาต่อรองเงินเดือน เชื่อเถอะว่าการต่อรองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าฝึกมาดีแล้ว…ผ่านฉลุยแน่นอน (ถ้าไม่ฝึกมานะ ผมว่ามีตอบคำถามผิดๆถูกๆ โดนต้อนจนต้องยอมเลยล่ะ) 6. เตรียมข้อเสนอที่ใช้ในการตอบกลับให้ดี ควรคิดและวางแผนว่าถ้าทางบริษัทเสนอมาแบบนี้ เราควรต่อรองอย่างไร ตอบอย่างไร และเสนอกลับอย่างไร 7. คุณสามารถกำหนดเวลาในการต่อรอง เช่น พูดว่าคุณพบงานในฝันแล้ว... Read more
อัพเดต ค่าครองชีพ ทั่วโลก (Infographic)
ทาง movehub ได้ทำ Infographic เพื่ออัพเดตค่าครองชีพทั่วโลก จาก Consumer Price Index ที่ใช้ในการกำหนดความแตกต่างของค่าครองชีพทั่วโลก ซึ่งคำนวณจากราคาสินค้าของชำ ค่าขนส่ง ค่าเดินทาง ค่าอาหาร และเครื่องใช้ต่างๆ โดยเปรียบเทียบกับ New York เช่น – ราคาสินค้าของชำ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ขนมปัง ข้าว ไข่ ผัก และเครื่องดื่มมึนเมา – ค่าขนส่ง ได้แก่ ตั่วเดินทางรายครั้ง รายเดือน ค่าแท๊กซี่ ราคาน้ำมัน – ค่าอาหารในร้านอาหาร ได้แก่ ราคาเนื้อสัตว์ในร้านอาหารระดับบน กลาง ล่าง  ราคาเครื่องดื่มกาแฟ เครื่องดื่มมึนเมา น้ำเปล่าในร้านอาหาร – ราคาเครื่องใช้ต่างๆ ได้แก่ ค่าไฟ ค่าเครื่องทำความร้อน ค่าน้ำ... Read more
10 เทรนด์ ต้องรู้สำหรับนักการตลาดในปี 2015 (Asian Trends)
ในยุคที่โลกทั้งโลกเชื่อมต่อกัน การสื่อสาร ข่าวสาร และเทรนด์ต่างๆแพร่หลายไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Consumer Trends ที่มีผลต่อการวิเคราะห์ลูกค้า การทำวิจัยตลาด รวมถึงการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด บทความนี้นำเสนอ 10 เทรนด์ ของอาเซียนในปี 2015 ได้แก่ 1. Better Together ในสังคมอาเซียน การเพิ่มขึ้นของ Social Media ทำให้ความต้องการของคนในสังคมให้ทุกคนได้ยินเสียงและการกระทำมากขึ้น ดังนั้นการที่ประชาชนรวมตัวกันแสดงพลังหรือร่วมกันแชร์ปัญหา ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ องค์กรรัฐ และเอกชน ร่วมกันให้แสดงพลังเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 2. Bare Essentials ตลาด Bottom of the pyramid (BOP) หรือ ตลาดรากหญ้าจะเป็นที่ต้องการอย่างมากในปี 2015 เนื่องจาก 733 ล้านคนใน APAC อยู่ด้วย 1.25 ดอลล่าต่อวัน ดังนั้นตลาดรากหญ้าจะเป็นตลาดสำคัญที่แบรนด์ต่างๆจะลงมาทำตลาด... Read more
10 บทเรียนที่ผู้ประกอบการควรรู้ก่อนเริ่ม ธุรกิจ SMEs
ทางลัดในการไปสู่ความสำเร็จได้เร็วที่สุดของ ธุรกิจ SMEs นอกจากการลงมือทำแล้ว บทเรียนและประสบการณ์จากผู้ประกอบการอื่นๆก็เหมือนเป็นคู่มือที่จะทำให้เราสามารถเตรียมตัว ป้องกัน และแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นระหว่างการประกอบธุรกิจ บทความนี้รวบรวมสิ่งที่ผู้ประกอบการอยากจะรู้ก่อนที่เค้าจะเริ่ม ธุรกิจ SMEs เพราะถ้ารู้อาจจะเตรียมตัว ป้องกัน และแก้ไขปัญหาได้ 1. เก็บบันทึกต่างๆตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ ในช่วงเริ่มต้น ธุรกิจ SMEs ส่วนมากผู้ประกอบการจะหมุ่นอยู่กับการพัฒนาสินค้าและบริการ การบริหารงานของบริษัทโดยไม่ได้สนใจการเก็บบันทึกต่างๆ ทั้งเรื่องของบัญชี ภาษี ยอดขาย รายชื่อลูกค้าหรือเอกสารทางกฎหมายต่างที่จำเป็น เมื่อเวลาผ่านพ้นมา เมื่อต้องใช้ข้อมูลเหล่านั้นถ้าไม่มีก็อาจจะเกิดปัญหาได้ เช่น การเก็บบันทึกรายชื่อลูกค้า หรือ การเก็บฐานข้อมูลลูกค้า ถ้ามีการวางแผนการบันทึกข้อมูลแต่แรก จะช่วยให้สามารถบันทึกได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็วในการทำ CRM (Customer Relationship Management) 2. รู้จักการรักษาสมดุล ในการลงทุนเชิงรุก เชิงรับ และการตัดสินใจต่างๆ บางครั้งมากไป บางครั้งเร็วไป บางครั้งน้อยไป ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจได้ ดังนั้นความสามารถในการรู้ความแตกต่างระหว่างการลงทุนเชิงรุกกับการลงทุนเชิงรับเป็นสิ่งจำเป็นในการตัดสินใจในการลงทุนเพื่อให้สามารถรักษาสมดุล และมั่นใจในลงทุน 3. ไม่ต้องสมบูรณ์แบบมาก ความสมบูรณ์แบบ การใส่ใจ... Read more
สิ่งที่ควรหยุดทำ ในปี 2015
มนุษย์เราต่างก็มีเหตุผลในการใช้ชีวิตหรือดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะการทำงานหรือการดำเนินธุรกิจ SMEs มีสไตล์ในการทำงาน การบริหาร และวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน  ในบทความนี้จะกล่าวถึง สิ่งที่ควรหยุดทำในปี 2015 โดยสรุปสั้นๆได้ดังนี้ หยุดทำหลายๆอย่างพร้อมกัน บางครั้งการทำหลายๆอย่างพร้อมกัน ไม่ได้ช่วยให้เร็วขึ้นหรือมีประสิทธิภาพมากขึ้นเลย หยุดผลัดวันประกันพรุ่ง สิ่งที่ควรหยุดทำ เช่นเก็บงานไว้ทำพรุ่งนี้ หรือ รอมีอารมณ์หรือแรงบันดาลใจในการทำงานก่อนค่อยทำงาน หยุดดึงดันทำงานต่อ การดึงดันที่จะทำแม้จะคิดไม่ออก คือ สิ่งที่ควรหยุดทำ เพราะอาจจะเสียเวลามากเกินไปทั้งที่ไม่เกิดประโยชน์อะไร หยุดบ่นว่างานยุ่ง หรือบ่นเรื่องต่างๆเกี่ยวกับที่ทำงาน โดยเฉพาะใน Social media เพื่อนๆคงไม่อยากฟังการบ่นเท่าไหร่หรอก หยุดคิดว่าตัวเองเจ๋งตลอดเวลา มั่นใจตัวเองเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามั่นใจเกินไปจะทำให้ถอยหลังเข้าคลอง ไม่พัฒนาตัวเอง หยุดมองโลกในแง่บวกเกินไป มีงานวิจัยรายงานว่ามองโลกในแง่บวกมากเกินไปทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายสักที เช่น ปีนี้น่าจะไม่ใช่ปีของเรา หรือ ไม่เป็นไรเราทำเต็มที่แล้ว หยุดแสดงจุดแข็งของตัวเองมากเกินไป การที่มีจุดแข็งเป็นเรื่องดีแต่ถ้ามากไปอาจจะกลายเป็นจุดด้อยได้ หยุดให้ร้ายผู้อื่น การนินทาพูดเรื่องคนอื่นลับหลังนี่ว่าแย่แล้ว แต่การให้ร้ายผู้อื่นนี่แย่กว่า ยิ่งถ้าเป็นการทำธุรกิจด้วยแล้ว ไม่ควรให้ร้ายคู่แข่ง ควรจะแข่งขันด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดมากกว่าการทำลายกัน หยุดนั่งมากเกินไป ควรจะลุกเดินบ้าง หรือควรออกกำลังกายบ้าง จะก่อนทำงานหรือหลังเลิกงานก็ได้ อย่าลืมว่าถ้าร่างกายไม่แข็งแรง จะเอาแรงที่ไหนมาทำงานกันครับ หยุดอยู่แถวสาม... Read more