เรามาดู นิสัยการนอน ของบุคคลที่ประสบความสำเร็จกันดีกว่า จะเห็นได้ว่ามีลักษณะ นิสัยการนอน แตกต่างกันพอสมควร ยิ่งนึกถึงที่เราได้ยินมาตลอดว่าควรนอนวันละ 8 ชั่วโมง แต่จากข้อมูลส่วนใหญ่นอนกันเฉลี่ยเพียง 6 ชั่วโมง และบางท่านนอนเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ที่น่าสนใจที่สุดคือของ Thomas Edison กับ Leonado Da Vinci มี นิสัยการนอน แบบนอนทีละนิด ครั้งละ 20 นาที สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ Infographic จาก bigbrandbed #smeresearch #sme #business #AEC #วิจัย #วิจัยตลาด Source: bigbrandbeds และ SME Research by MRSG Co.,Ltd Credit image: Daniel Guimarães Read more
ช่วงหลังๆได้ยินเหตุผลของการที่ยังไม่เริ่มธุรกิจกันเยอะ ทั้งยังทำงานประจำ ความมั่นคง ความเสี่ยง และความรู้ความสามารถ ซึ่งก็เป็นเรื่องนานาจิตตัง ต่างมีเหตุผลและโอกาสต่างกัน แต่อย่าลืมว่า “การลงมือทำ” คือสิ่งที่ทำให้เราเรียนรู้มากที่สุด พอได้ลองทำ เราอาจจะรู้ก็ได้ว่าเราไม่ชอบทำธุรกิจ เราไม่เหมาะกับธุรกิจนี้ หรือแม้แต่เราได้พบเจอปัญหาก็เท่ากับว่าได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นทุกวัน เช่นเริ่มขายของออนไลน์ พอทำไปเรื่อยๆ เริ่มต้องหัดใช้ Photoshop เริ่มต้องหัดถ่ายรูป เริ่มต้องหัดทำเว็บ หรือเริ่มหัดทำอย่างอื่นอีกมากมาย สำหรับผม การเริ่มต้นทำธุรกิจ นอกเหนือจากการสร้างรายได้แล้ว เป็นสนามเรียนรู้ชั้นดี พบเจอปัญหามากมาย ทำให้ได้ทักษะใหม่ๆตลอดเวลา และความรู้ต่างๆก็เพิ่มพูนตลอดระยะเวลาที่ทำธุรกิจมา อย่างไรก็ตาม บทความนี้จะกล่าวถึง 16 ข้ออ้างในการไม่เริ่มทำธุรกิจ โดยทาง Funders and Founder เป็นผู้ทำ Infographic นี้ขึ้นมา เรามาดูกันดีกว่า ว่าเหตุผลไหนตรงกับเราบ้าง แล้วตรงกับที่เราคิดไว้กี่ข้อ ยังเด็กเกินไป อ่อนประสบการณ์ ยังไม่เด็ดเดี่ยวพอ ยังไม่ฉลาดพอ มือใหม่สำหรับธุรกิจ ยังไม่มีผู้ร่วมก่อตั้ง ไม่มีไอเดียว่าทำอะไรดี ไม่มีตลาดให้ทำแล้ว ต้องดูแลครอบครัว รวยอยู่แล้วววว! กลัวการผูกมัด... Read more
แบบทดสอบความเป็น ผู้ประกอบการ SMEs
SME Management 23/02/2015
ลักษณะนิสัยในตัว ผู้ประกอบการ SMEs ล้วนมีผลต่อการบริหารงาน กลยุทธ์ทางการตลาด การลงทุน สำหรับใครที่สนใจทำธุรกิจ กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือผู้ประกอบการ SMEs วันนี้มีแบบทดสอบมาให้ลองทำกัน โดยทาง The Founder Institute ที่ปรึกษาด้านการเริ่มต้นธุรกิจ ได้พัฒนาแบบทดสอบลักษณะนิสัยของผู้ประกอบการ โดยแบ่งออกเป็นสองส่วน ตามนี้ ส่วนที่ 1: จงหารูปที่หายไปในฝั่งซ้าย โดยเลือกจากฝั่งขวาจากทั้งหมด 8 ตัวเลือก ส่วนที่ 2: จงเลือกประโยคที่แสดงความเป็นตัวคุณที่สุดในแต่ละข้อ 8. a. ชอบพูดแต่สิ่งดี ไม่พูดลับหลัง b. รู้จักพูด ช่างเจรจา หว่านล้อมเก่ง เต็มไปด้วยความลับ 9. a. เต็มไปด้วยจินตนาการที่สดใส b. ใส่ใจในรายละเอียด 10. a. มักตื่นเต้นกับไอเดียใหม่ๆ b. ไม่ค่อยเป็นทุกข์เป็นร้อนกับอะไร 11. a. คิดว่าคนอื่นมีเจตนาดีต่อเรา b. รู้ทันคน 12. a. เป็นเพื่อนกับคนง่าย b. พูดถึงสิ่งต่างๆแล้วฟังดูดี... Read more
ปัจจุบันการติดต่อสื่อสาร ประชุม การทำงานร่วมกันสามารถทำผ่านออนไลน์ได้โดยง่าย เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์สักตัว ดังนั้นผู้ประกอบการหรือฟรีแลนซ์ต่างหันมา ทำงานที่บ้าน ร้านกาแฟ และพื้นที่ต่างๆเช่น Working Space เป็นการทำงานที่มีความคล่องตัวสูง และมีอิสระในการทำงานมาก การทำงานที่ออฟฟิตหรือที่บ้าน ต่างมีข้อดีข้อเสียกันไปคนละแบบ ข้อดีของการ ทำงานที่บ้าน คือ คล่องตัว มีอิสระ สะดวกสบาย ประหยัดค่าเช่า แต่ข้อเสียคือการที่จะหลุดโฟกัสได้ง่าย สบายเกินไป หรือมีเรื่องกวนสมาธิตลอด อย่างไรก็ตามคนเรามักจะคิดว่าทำงานได้มากกว่าเมื่ออยู่ที่บ้าน ส่วนการทำงานอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพที่สุด ส่วนตัวผมคิดว่าเราต้อง Balance ชีวิตส่วนตัวและการทำงานให้มีความพอดี บทความนี้จะแนะนำวิธีในการทำงานให้มีประสิทธิภาพที่สุด 1. กำหนดตารางการทำงาน เนื่องจากการ ทำงานที่บ้าน ถ้ามีอิสระในการทำงานมากเกินไปอาจส่งผลให้หลุดโฟกัสและงานไม่เดิน อย่าลืมว่าการทำงานที่ออฟฟิตจะมีคนตามงาน ประสานงาน หรือกำหนดเวลาส่งงานตลอดเวลา ดังนั้นการทำงานที่บ้าน ควรจะมีกำหนดตารางการทำงาน และดำเนินงานตามตารางการทำงานที่กำหนดไว้ การกำหนดตารางควรจะกำหนดตามที่สามารถทำได้จริง ตามความเห็นผม เราควรจะกำหนดพฤติกรรมบางอย่างเพิ่มเข้าไปในตารางการทำงาน เช่น ดื่มกาแฟก่อนทำงาน อ่านหนังสือพิมพ์ ออกกำลังกาย... Read more
ในการทำงานนั้น การพัฒนาตนเองเป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำงานที่ช่วยให้ก้าวหน้าในอาชีพการงาน ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ช่วยให้บริษัทเดินไปสู่เป้าหมายได้ดีขึ้น แต่นอกเหนือจากการพัฒนาตนเองของพนักงานแล้ว สภาพแวดล้อม ผู้คนรอบข้าง ผู้นำ และนโยบายของบริษัท ล้วนมีผลต่อการสร้างแรงจูงใจในการทำงาน ถ้าบริหารไม่ดีแล้ว จะทำให้ แรงจูงใจในการทำงาน ลดลง จากคนที่มีประสิทธิภาพอาจจะกลายเป็นคนทำงานไปวันๆ สุดท้ายก็จะกลายเป็นมนุษย์ที่ไม่มีแรงจูงใจในการทำงานในที่สุด ดังนั้นบทความนี้จะกล่าวถึง 7 สิ่งที่จะทำลาย แรงจูงใจในการทำงาน และทางแก้ปัญหาครับ 1. มีคนรอบข้างแย่ๆ ผมว่าใครๆก็ต้องเคยเจอปัญหานี้ แต่ก่อนที่จะหงุดหงิดและเซ็งไปก่อน ลองพิจารณาดีดีว่าเค้าแย่จริงๆหรือไม่ หรือแค่ไม่ถูกใจเรา เราแสดงออกกับเค้าอย่างไรบ้าง แต่ถ้าเรามั่นใจแล้วว่าเราทำดีแล้ว ต้องมาแก้ปัญหากันต่อไป เช่น ถ้าเค้าเป็นคนขี้วีน พูดจาไม่ดี เราลองพิจารณาว่าเค้าทำไปเพราะอยากให้งานออกมาดีหรือไม่ เค้าทุ่มเทกับงานหรือไม่ ถ้าใช่เราอาจจะต้องพูดคุยกันตรงๆว่าให้พูดดีดีหน่อย ลองสนิทสนมกับเค้าสักหน่อย อาจจะดีขึ้น แต่ถ้าเจอคนขี้เม้าว์ ใส่ไฟ พูดแต่เรื่องแย่ๆของบุคคลอื่น ควรจะต้องแจ้งต่อผู้บังคับบัญชา และผู้บริหารหรือผู้บังคับบัญชาควรจะต้องแก้ปัญหานี้โดยด่วน เพราะสิ่งนี้จะทำลายบรรยากาศในการทำงานอย่างยิ่ง ในต่างประเทศ ถึงขนาดแนะนำให้ไล่ออกด้วยซ้ำ (แต่ผมว่าอาจจะแรงไป) 2. ขาดการส่งเสริมการพัฒนา ใครๆก็อยากพัฒนากันทั้งนั้น บริษัทที่ดีจะมีการส่งเสริมการพัฒนาต่างๆ... Read more
ปัจจุบันธุรกิจ SMEs ได้รับความนิยมมากทำให้มีผู้ประกอบการธุรกิจใหม่ๆเข้าสู่ตลาดมากขึ้น รวมถึงกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มเริ่มต้นวัยทำงาน เรียกได้ว่า ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Young Entrepreneur) ที่มีความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ และไฟในการทำงานมากมาย และจากผลการวิจัยของ Kauffman Foundation เผยว่ากลุ่มอายุ 18-21 ปีมีแนวโน้มจะเริ่มต้นธุรกิจเพิ่มขึ้น ดังนั้นบทความนี้จึงเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ควรรู้ก่อน เริ่มต้นทำธุรกิจ ได้แก่ 1. จงมั่นใจ…..แต่อย่ามากเกินไป ควรจะก้าวเดินอย่างมั่นใจและต้องมั่นคงด้วย หลายๆครั้งที่ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มั่นใจในตัวเองมากเกินไป และด้วยวัยที่กล้าเสี่ยง ทำให้อาจจะตัดสินใจบางอย่างเร็วเกินไป หรือเกินกว่าความสามารถที่จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ยึดเป้าหมายไว้ให้แน่น เพราะว่า ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ และไฟในการทำงานมากมาย ทำให้ไอเดียต่างๆพรั่งพรูออกมา อาจจะทำให้เลือกไม่ได้ว่าจะทำอะไรกันแน่ เพราะคิดว่าอันนี้ก็เจ๋ง อันนั้นก็เจ๋ง ทางแก้ไขคือ เลือกมาหนึ่งไอเดียที่เจ๋งที่สุด แล้วทำมันให้ดีที่สุด 3. ลงมือทำ เพราะว่า ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มีความรู้ความสามารถ อาจจะทำวิเคราะห์มากมาย... Read more
นิสัยที่ต้องเลิก…ถ้าอยากรวย!
SME Management 11/02/2015
การที่เราจะประสบความสำเร็จหรือรวยได้นั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือการลงมือทำ และต้องทำด้วยความรัก ความเข้าใจ และตั้งใจในการทำงานหรือธุรกิจนั้นๆให้มากที่สุด แต่สิ่งที่เป็นตัวแปรอีกอย่างคือ นิสัยของผู้ประกอบการเอง ที่มีผลต่อความประสบความสำเร็จหรือรวยได้ เรามาดูกันดีกว่าว่านิสัยอะไรบ้าง ถ้าเลิกได้จะช่วยให้ประสบความสำเร็จหรือรวยได้ 1. ซื่อเกินไป ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้ไม่ซื่อตรงกับใคร การทำธุรกิจควรจะทำด้วยความซื่อตรง แต่หมายความว่า นิสัยที่ต้องเลิก คืออย่าซื่อเกินไป ไม่ทันคน ไว้ใจคนเกินไป จะโดนหลอกง่ายๆ ในโลกธุรกิจทุกอย่างต้องหูตาไว ทางแก้ที่ง่ายที่สุดคือ ก่อนที่จะเชื่อข้อมูลใดๆ หรือจากใคร ควรตอบสอบแหล่งที่มาเสียก่อน 2. หวั่นวิตกเกินไป ในการแข่งขันทางธุรกิจ มีแรงกดดันมากมาย นิสัยที่ต้องเลิก คือหวั่นวิตกเกินไป หากไม่สามารถควบคุมความหวั่นวิตกได้ หรือแตกตื่นกับสถานการณ์ต่างๆง่าย อาจจะส่งผลเสียต่อการตัดสินใจได้ ความวิตกกังวลทำให้การตัดสินใจแย่ลง ดังนั้นควรจะควบคุมอารมณ์ และหาทางแก้ปัญหาต่างๆ 3. คลั่งไคล้เกินไป โดยทั่วไปแล้ว ความคลั่งไคล้ในสิ่งที่ทำ เป็นแรงผลักดันให้ประสบความสำเร็จ นิสัยที่ต้องเลิก คือคลั่งไคล้เกินไป แต่ถ้ามากเกินไป อาจจะทำให้เป็นการย้ำคิดย้ำทำได้ ทำให้มองข้ามความเป็นจริงต่างๆ หมกมุ่นอยู่กับความคลั่งไคล้นั้นเกินไป การตัดสินใจต่างๆก็จะผิดพลาดได้ 4. ขี้เกียจ ข้อนี้ผมว่าทุกคนรู้แน่ว่า ความขี้เกียจ เป็นสิ่งที่ควรเลิก และหันมามุ่งมั่นและสร้างวินัยในการทำงาน... Read more
ทำธุรกิจให้เหมือน เล่นเกมส์
SME Management 05/02/2015
ผมว่าเกือบทุกคนต้องเคย เล่นเกมส์ กัน ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ซึ่งเกมส์มีมากมายหลายแนวไม่ว่าจะเป็นเกมส์คอนโซล เกมส์ออนไลน์ หรือเกมส์ในมือถือ ได้ทั้งความสนุก ฝึกสมองและสมาธิ บทความนี้ผมเขียนขึ้นมาโดยเปรียบเทียบการ เล่นเกมส์ และการทำธุรกิจ ทำธุรกิจให้เหมือน เล่นเกมส์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นและสามารถนำไปปรับใช้ในการทำธุรกิจ หรือเริ่มต้นทำธุรกิจกันได้อย่างสนุกและมีประสิทธิภาพกันมากที่สุด 1. ความท้าทาย คือโอกาสในการพัฒนาการทำงานและธุรกิจ อย่าลืมว่านักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ผ่านอุปสรรคปัญหามามากมาย ดังนั้นเมื่อเจอปัญหาให้มองเป็นความท้าทาย อย่าไปเครียดและมองในแง่ลบ เมื่อผ่านด่านนี้ไปได้คุณจะเจอปัญหาซ้ำก็แก้ไขอย่างไม่ยากนัก มันก็เหมือนการเล่นเกมส์ด่านที่ยากมาก ถ้าเราถอดใจเกมส์ก็ไม่จบ ถ้าเราผ่านไปได้ กลับมาเล่นอีกครั้งก็รู้แล้วว่าต้องเล่นอย่างไรบ้าง 2. คู่แข่ง คืองานวิจัยชั้นดีที่ต้องอ่าน แทนที่เราจะมองคู่แข่งเป็นศัตรูตัวร้าย เราสามารถมองเป็นเหมือนตัวอย่างในการทำธุรกิจหลายๆครั้งคู่แข่งเราได้ทำการตลาดไปแล้วล้มเหลว เราก็หลีกเลี่ยงวิธีนั้นๆได้ อันไหนดี เราก็ศึกษาแล้วนำมาปรับใช้กับธุรกิจเราได้ คิดถึงตอน เล่นเกมส์ กับเพื่อน แทนที่เรามัวแต่จะเอาชนะ บางทีมองเพื่อนเล่น เราอาจจะได้วิธีเล่นใหม่ๆหรือหลีกเลี่ยงวิธีที่ไม่ได้ผลได้ 3. ทุกอย่างต้องการความทุ่มเท การทำธุรกิจไม่มีทางลัดหรอก ถึงจะมีแต่สุดท้ายถ้าขาดความรู้ความสามารถ การทุ่มเทในการทำธุรกิจ ทางก็อาจจะตัน ดังนั้นใครตอนนี้ที่คิดจะหาทางลัดความสำเร็จ เอาเวลามาทุ่มเทให้กับการทำงานดีกว่า... Read more
เปลี่ยนลุค…เปลี่ยนชีวิต
SME Management 31/01/2015
การทำงานหรือทำธุรกิจต้องใช้ความรู้ความสามารถเพื่อที่จะทำให้งานหรือธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการการแสดงออก การแต่งกาย มารยาท หรือการสนทนาเจรจา มีส่วนช่วยให้งาน การสัมภาษณ์งาน หรือในการเจรจาประสานงานต่างๆในธุรกิจสำเร็จลุล่วงด้วยดี สิ่งที่สร้างความประทับใจเมื่อแรกพบ ก็เกิดมาจากรูปลักษณ์ภายนอกและสิ่งที่แสดงออกมา การพูด การแต่งตัว สามารถแสดงออกได้ถึงความสามารถความฉลาดได้ ดังนั้นใครที่ยังคิดว่าแค่เรามีความรู้มีความสามารถก็พอแล้ว ลองอ่านบทความนี้ดูก่อนครับ การทำให้เราดูดี สมาร์ท ทั้งจากการแต่งตัว จากการแสดงออก จากทัศนคติ หรือจากพฤติกรรมต่างๆ จากผลการวิจัย การมีความมั่นใจในตัวเอง การพูดชัดเจนและลื่นไหล และสนองตอบกับสิ่งที่ผู้อื่นพูด จะสามารถสร้างความประทับใจกับผู้อื่นได้ ก่อนอื่นมาดูพฤติกรรมที่เราชอบใช้ในการทำให้ดูสมาร์ท ได้แก่ ทำหน้าให้ดูจริงจัง, ประสานมือ, ใช้คำเว่อร์ๆหรือประโยคยากๆดูซับซ้อน, และขยับตัวหรือเดินเร็วกว่าผู้อื่นรอบๆตัว พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เราดูสมาร์ทจริงๆ ทาง Business Insider แนะนำวิธีทำให้ดูมีความสามารถ ได้แก่ 1. สบตา – เมื่อเราพบใครครั้งแรก ควรสบตาตลอด ผลการวิจัยจาก Northeastern University แสดงว่าคนที่สบตากับคู่สนทนาขณะพูด ดูมีความสามารถกว่า คนที่ไม่สบตา 2. พูดเร็ว – การพูดเร็วจะทำให้รู้สึกว่าผู้พูดรู้และเข้าใจในสิ่งที่พูด ผลการวิจัยจาก... Read more
ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆจากชีวิตและประสบการณ์ของผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญที่เราสามารถปรับข้อคิดต่างๆมาใช้ในการพัฒนาตนเอง ซึ่งเราสามารถเรียนรู้ได้ทั้งจากคนที่ล้มเหลวมาก่อน คนที่ประสบความสำเร็จ และคนที่ประสบความสำเร็จมาก หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าระหว่างคนที่ “ประสบความสำเร็จ” และคนที่ “ประสบความสำเร็จมาก” ต่างกันอย่างไร มีวิธีคิดต่างกันอย่างไร บทความนี้ Greg McKeown จาก LinkedIn ได้อธิบายความแตกต่างไว้ดังต่อไปนี้ 1. คนที่ประสบความสำเร็จมักจะพูดว่า “ถ้าฉันหาเวลาทำได้ ฉันจะทำ” แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากมากมักจะ “เลือกทำ” Warren Buffet เคยกล่าวไว้ว่าความแตกต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จ กับคนที่ประสบความสำเร็จมาก คือคนที่ประสบความสำเร็จมากมักจะปฏิเสธทุกสิ่งอย่าง แต่การปฏิเสธนี้ไม่ใช่การไม่ทำ แต่เป็นการเลือกทำในสิ่งที่วางแผนไว้ และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ตามที่วางแผนไว้ 2. คนที่ประสบความสำเร็จนอนพักผ่อนเพียง 4 ชั่วโมงต่อคืน แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากมันจะนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ มีงานวิจัยจาก K. Anders Ericsson พบว่านักไวโอลินที่ดีที่สุดใช้เวลาในการฝึกฝนมากกว่า และพักผ่อนนานกว่า โดยเฉลี่ย 8.6 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าการน้อยหลับน้อยๆ การทำงานหนัก หามรุ่งหามค่ำ อดหลับอดนอนไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการทำงาน แต่เป็นการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพต่างหาก ดังนั้นจึงควรมีการวางแผนในการทำงาน รวมถึงควรกำหนดเวลาในการทำงานและการพักผ่อน 3. คนที่ประสบความสำเร็จคิดว่าการเล่นนั้นเสียเวลา แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากมากมองการเล่นเป็นบ่อเกิดของความคิดสร้างสรรค์... Read more
