รางวัลในการทำงาน เป็นสิ่งที่พนักงานต่างเฝ้ารอจากนายจัาง ไม่ว่าจะเป็นเงิน เป็นการแสดงออก หรือแม้แต่นโยบายต่างๆ ดังนั้น ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี (SMEs) ไม่ควรที่จะละเลยในการตอบแทนให้รางวัล ที่ร่วมกันทำงานเพื่อเป้าหมายของบริษัท ร่วมกันทำให้เจริญเติบโต และมุ่งมั่นทำงานกันมาตลอด อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่เราจะตอบแทนให้รางวัลในการทำงาน ด้วยเงิน เช่น โบนัส หรือ การให้เงินพิเศษ ทาง Officevibe ได้ทำ Infographic แนะนำ 20 วิธีให้รางวัลในการทำงาน..ที่ไม่ใช่เงิน ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี (SMEs) สามารถเลือกนำไปใช้ในการให้รางวัล กับพนักงาน หรือพนักงานท่านใดสนใจอันไหนเอาไปเสนอเจ้านายได้เลยครับ 🙂 1. ให้ยืดหยุ่นในเรื่องเวลาทำงาน 2. ให้ยืดหยุ่นสถานที่ในการทำงาน ไม่ต้องทำงานที่ออฟฟิต ให้ทำงานทางไกลผ่านคอม 3. รับรองความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน 4. ให้หยุดพัก 1-2 วัน 5. กล่าว “ขอบคุณ” 6. เขียนจดหมายขอบคุณด้วยลายมือ 7. ชมเชยต่อหน้าคนอื่นๆ... Read more
4 คำถามที่ต้องมีใน การสัมภาษณ์งาน
SME Management 25/03/2015
สำหรับธุรกิจ ไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือเล็กหรือ เอสเอ็มอี (SMEs) เราคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าพนักงานนั้น เป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เจริญเติบโตได้ ดังนั้น วันนี้จึงขอเสนอ 4 คำถามที่ต้องมีใน การสัมภาษณ์งาน ระหว่าง ผู้สมัครงาน และ เจ้าของกิจการ ซึ่งในทางกลับกัน คือ 4 สิ่ง ที่ผู้สมัครงานควรเตรียมคำตอบไว้เมื่อถูกถาม บทความนี้ เป็นประโยชน์ต่อทั้ง ผู้ประกอบการเอง และ ผู้สมัครงาน เพื่อให้การสัมภาษณ์งาน และคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมกับงานมากที่สุด 1. ทำไมถึงสนใจในการทำงานที่บริษัทนี้ ใน การสัมภาษณ์งาน คำถามนี้จะทำให้เราทราบได้ว่า ผู้สมัครได้ทำการบ้านเกี่ยวกับบริษัทมามากน้อยแค่ไหน เจ้าของกิจการควรเลือกผู้สมัครที่มีความรู้เกี่ยวกับบริษัทบ้าง เพราะอย่างน้อย ก็แสดงให้เห็นถึงความสนใจ ใส่ใจ ไม่ใช่แค่การหว่านใบสมัครเพื่อแค่จะได้มีงานทำ 2. คิดว่าทำไมคุณจึงเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ นอกจากจะได้ทราบคุณสมบัติที่ผู้สมัครคิดว่าตัวเองเหมาะสมแล้วใน การสัมภาษณ์งาน คำถามนี้จะช่วยให้เรามองเห็นความมั่นใจของผู้สมัครในการสมัครตำแหน่งดังกล่าว เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ คำถามนี้ ยังช่วยแสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่มีต่อการทำงาน ต่อตำแหน่งงาน และ ต่อบริษัทด้วย สามารถอ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ เหตุผลที่ควรเลือกจ้างพนักงานจาก ทัศนคติ... Read more
รวย รวย รวย คำนี้ใครๆก็อยากได้ อยากมี อยากเป็น แต่ถ้าจะวัดรวยทางลัด หรือรวยง่ายๆ อาจจะต้องรอให้ถูกหวย แต่วิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด คือ การลงมือทำ มุ่งมั่นตั้งใจทำ ผมว่าคือวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุดแล้ว จะเร็วไม่เร็วอยู่ที่เรา อย่างไรก็ตาม การลงมือทำ อาจจะไม่เพียงพอ แต่ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม รวมถึงการมีวิธีคิดที่ส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้าทางด้านการงานและอาชีพ ดังนั้น บทความนี้จะแนะนำ 8 การเปลี่ยนวิธีคิด พลิกชีวิตให้ รวย เพื่อสามารถนำไปพัฒนาการทำงานและดำเนินธุรกิจเอสเอ็มอี SMEs ให้ประสบความสำเร็จ 1. หยุดคิดถึงเรื่องเงิน – แทนที่เราจะโฟกัสไปที่เงิน ให้สนใจที่การพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีที่สุด อย่ามองเงินเป็นเป้าหมายหลัก แต่ให้ทำสิ่งที่ทำอยู่ให้ดีที่สุด แล้วเงินจะเป็นผลพลอยได้ตามมาเอง แค่เปลี่ยนวิธีคิด พลิกชีวิตให้ รวย ได้แล้ว บางครั้งจะเห็นได้ว่า ผู้ประกอบการ SMEs ดำเนินธุรกิจมาแล้วมีการเติบโต มัวแต่โฟกัสที่เงิน อยากรวยเร็ว อยากมีกำไรมากๆ สุดท้ายก็ไปลดต้นทุน ลดคุณภาพสินค้าและบริการ เพื่อให้มีกำไรมากขึ้น สุดท้ายความพึงพอใจต่อสินค้าและบริการลดลง... Read more
การเริ่มต้นธุรกิจ เป็นสิ่งที่ท้าทายและต้องใช้ทรัพยากรต่างๆ เช่น เงินทุน พนักงาน การบริหาร ความรู้ความสามารถ การผลิตสินค้า และการบริการ สำหรับ ผู้ประกอบการใหม่ หรือเรียกได้ว่า นักธุรกิจมือใหม่ อาจจะมีประสบการณ์ในการวางแผน การบริหาร หรือการตัดสินใจต่างๆ ยังไม่มากพอ ทำให้อาจจะมีการตัดสินใจหรือดำเนินธุรกิจผิดพลาดไป ผมว่าทุกคนที่เคยเริ่มต้นธุรกิจมา ก็อาจเคยประสบปัญหาเหล่านี้ ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง ดังนั้น บทความนี้มาเรียนรู้ความผิดพลาดต่างๆ กับ 7 บทเรียนจาก ความผิดพลาดของนักธุรกิจมือใหม่ ได้แก่ 1. ไม่ได้เตรียมเงินสำรองสำหรับตัวเอง – หลายๆครั้ง เราจะเตรียมเงินทุนสำหรับทำธุรกิจ เพื่อที่จะสามารถรันธุรกิจไปได้ ทั้งค่าเช่า ค่าผลิต ค่าจ้าง ค่ากิจกรรมทางการตลาด และอื่นๆ แต่ไม่ได้เตรียมเงินสำหรับตัวเอง รอวันที่ธุรกิจประสบความสำเร็จหรือมีผลกำไร ถึงจะมีเงินมาใช้จ่ายในชีวิตส่วนตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่รอด เป็น ความผิดพลาดของนักธุรกิจมือใหม่ เพราะการดำเนินธุรกิจต้องใช้เวลา ถ้าไม่ได้เตรียมเงินไว้ เมื่อขายได้หรือพอมีกำไร เราจะก็อาจจะต้องดึงกำไรนั้นมาใช้ สุดท้ายกำไรก็จะหายไปกับการใช้ และถ้าเงินไม่พอ ธุรกิจก็อาจจะหมุนเงินไม่ทัน จนล้มนั่นเอง ดังนั้นจึงควรเตรียมเงินสำรองสำหรับตัวเองในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ 2.... Read more
การสร้างความน่าเชื่อถือ เป็นสิ่งสำคัญในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ เนื่องจากผู้ประกอบการหลายๆท่านจะประสบปัญหา ขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้า ทั้งจากชื่อเสียงที่ยังไม่พอ ลูกค้าในพอร์ทยังน้อยเกินไป ประสบการณ์ในธุรกิจไม่มากพอ รวมถึงผู้ประกอบการ SMEs อาจจะดูเด็กเกินไป ทั้งที่จริงๆแล้ว เรามีความรู้และความสามารถในการทำงาน หรือมีสินค้าบริการที่มีคุณภาพ บทความนี้จะมาแนะนำ 7 วิธี การสร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับธุรกิจ ได้แก่ 1. มีเป้าหมายที่ชัดเจน – การทำธุรกิจที่มีเป้าหมายที่ชัดเจน มีจุดประสงค์ในการทำธุรกิจที่สามารถมองเห็นและรู้สึกได้ ทำให้ลูกค้าหรือผู้ถือหุ้นหรือผู้ลงทุน รู้สึกถึงความตั้งใจและความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการสร้างความรู้สึกมุ่งมั่นที่จะทำให้ธุรกิจออกมาดีที่สุด ช่วยทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจ แม้ว่าจะบริษัทที่ใหม่ในตลาด 2. มีความจริงใจ – การทำธุรกิจ แม้จะต้องมีกลยุทธ์มากมายในการดำเนินธุรกิจ หรือเล่ห์เหลี่ยมในการชิงไหวชิงพริบกัน แต่ความจริงใจในการทำธุรกิจ เป็นสิ่งที่สำคัญในการเจรจาต่อรอง รวมถึงการปฎิบัติต่อลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น หรือผู้ลงทุน อย่าพยายามที่จะสร้างภาพลักษณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวเอง จงเป็นตัวเอง และจริงใจต่อการกระทำ 3. มีความรู้และความเข้าใจ – สิ่งที่จะเสริม การสร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับธุรกิจ คือความรู้และความเข้าใจที่มีต่อธุรกิจ... Read more
ผมว่าใครๆก็เคยถามว่า “ทำธุรกิจอะไรดี?” เรามาดูกันว่า บุคคลที่ประสบความสำเร็จค้นพบว่าควร ทำธุรกิจอะไรดี อย่างไร ตอนไหน สำหรับช่วงเวลาแห่งการค้นพบ หรือ AHA Moment เป็นช่วงเวลาที่เหมือนว่าเรามีไอเดียออกมาหรือมีความต้องการที่สุด ว่าต้องทำสิ่งนั้นหรือสิ่งนี้ แบบว่า “อ๋อ มันต้องอย่างนี้สินะ” เป็น ป๊อปอัพไอเดีย จะเห็นได้ว่าเกิดจากความต้องการสิ่งนั้นๆ ที่ยังไม่มีใครสามารถสนองความต้องการได้ ทาง Funders and Founders ได้ทำ Infographic แสดงช่วงเวลาแห่งการค้นพบ ว่าเขาควรจะ ทำธุรกิจอะไรดี โดยบทความนี้จะเลือกอธิบายอันที่น่าสนใจ ได้แก่ Ingvar Kampard – ผู้ก่อตั้ง Ikea เพียงเพราะเขาไม่สามารถนำโต๊ะใส่ท้ายรถได้ จึงเอาขาโต๊ะออก จนพัฒนามาเป็นสินค้า Ikea ที่ต้องประกอบสินค้าเอง Brain Chesky – ผู้ก่อตั้ง Airbnb เริ่มจากการให้เช่าที่นอนเป่าลมของเขา จนมาเป็นธุรกิจให้เช่าห้องพักจากที่ต่างๆทั่วโลก Bill Gates – ผู้ก่อตั้ง Microsoft... Read more
หุ้นส่วนธุรกิจ เป็นสิ่งที่สำคัญในการเริ่มต้นทำธุรกิจและดำเนินธุรกิจ สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แบ่งสรรปันส่วนหน้าที่การทำงาน เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตขึ้นอย่างที่ได้หวังไว้ อย่างไรก็ตาม การที่ธุรกิจจะไปรอดหรือไม่รอด ตัวแปรสำคัญอยู่ที่ หุ้นส่วนธุรกิจ ด้วยเนื่องจากส่วนมากก็ทะเลาะกัน หรือการทำงานเข้ากันไม่ได้ หรือแม้แต่เรื่องการตกลงผลประโยชน์ ดังนั้น บทความนี้จะแนะนำ 6 เคล็ดลับในการเลือก หุ้นส่วนธุรกิจ ได้แก่ 1. มีนิสัยในการทำงานคล้ายกัน – หุ้นส่วนธุรกิจก็เหมือนชีวิตคู่ในการทำงาน ต้องอยู่ด้วยกันทั้งวัน ถ้าเราเป็นคนทำงานสายเลิกดึก หุ้นส่วนทำงานเช้าเลิกเย็น ก็อาจจะเกิดปัญหากันได้ (เพราะคนมาทำงานเช้า ก็จะรู้สึกว่าทำไมอีกคนยังไม่มา แต่อีกคนก็คิดว่าทำงานเลิกดึก ไม่เห็นจะมีปัญหา) อีกทั้งนิสัยในการทำงานที่แตกต่างกันเกินไป ก็อาจจะเป็นชนวนปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม ทางแก้ไขคืออาจจะต้องเคลียร์กันให้ชัดเจนก่อนการเริ่มต้นธุรกิจกัน เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งกัน 2. มีสถานะการเงินที่มั่นคง – การร่วมหุ้นลงทุนกัน ไม่จำเป็นที่จะต้องมีเงินมาก แต่ต้องมีสถานะการเงินที่มั่นคง เพื่อที่จะไม่เกิดการถอนหุ้นกลางคัน เพราะเกิดปัญหาทางด้านการเงิน รวมถึงการที่หุ้นส่วนนำเงินทั้งหมดมาลงทุน แล้วรอเงินจากการทำธุรกิจเพียงอย่างเดียว (อาจจะเกิดปัญหาทางการเงิน สุดท้ายก็ต้องถอนหุ้น) 3. มีอารมณ์ที่ไม่แปรปรวน – การทำงานต้องมีการปรึกษากัน... Read more
ไอเดียในการทำธุรกิจ เป็นสิ่งจำเป็นในการเริ่มต้นธุรกิจ (Startup business) และการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ (New product development) ไอเดียใหม่ๆ จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถแข่งขันในตลาดได้ แล้วเราจะเลือกไอเดียในการทำธุรกิจได้อย่างไร ไอเดียไหนมีโอกาสมากที่สุด ไอเดียไหนสามารถพัฒนาเป็นสินค้าและบริการได้ บทความนี้นำเสนอ 20 คำถามที่จะช่วยในการเลือกไอเดียในการทำธุรกิจ 1. คุณกำลังแก้ปัญหาอะไร? การคิดไอเดียในการทำธุรกิจ ต้องเริ่มต้นจากการกำหนดปัญหาของสินค้าหรือบริการก่อน แล้วจึงคิดไอเดียทำธุรกิจมาตอบโจทย์หรือแก้ปัญหา ดังนั้น ถ้าคุณยังไม่ได้กำหนดหรือรู้ถึงปัญหา หรือไอเดียในการทำธุรกิจนี้ยังไม่สามารถแก้ปัญหานั้นได้ แปลว่าไอเดียนี้ยังไม่ผ่าน 2. คนอื่นเคยแก้ปัญหานี้แล้วหรือไม่? เพราะอะไรถึงสำเร็จหรือล้มเหลว เราสามารถเรียนรู้ไอเดียในการทำธุรกิจได้จากประสบการณ์นั้น อาจช่วยการวางกรอบของปัญหาแคบลง ปัญหาจะเฉพาะเจาะจง ไม่กว้างจนเกินไป ช่วยทำให้ไอเดียในการทำธุรกิจสามารถตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาได้ 3. ประโยชน์ของสินค้าหรือไอเดียในการทำธุรกิจคืออะไร? ยิ่งคุณคิดข้อดีหรือประโยชน์ของไอเดียในการทำธุรกิจได้มากเท่าไหร่ และเจาะจงได้มากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้สามารถตอบโจทย์หรือสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น 4. คุณสมบัติหลักของสินค้าหรือบริการคืออะไร? ลองเขียนหรืออธิบายคุณสมบัติหลักของสินค้าหรือบริการ ถ้าคุณนึกไม่ออกหรืออธิบายได้ไม่ละเอียดพอ แปลว่าไอเดียในการทำธุรกิจนี้ยังไม่ผ่าน 5. ไอเดียในการทำธุรกิจแนวเดียวกันกับที่คุณเคยลองทำหรือไม่? ถ้าแนวเดียวกัน แตกต่างกันอย่างไร ถ้าคุณไม่สามารถตอบได้ว่าแตกต่างอย่างไร ประโยชน์หรือคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร ลองหาไอเดียใหม่จะดีกว่า 6. ใครคือคู่แข่งของคุณ?... Read more
เราเคยสังเกตกันบ้างหรือไม่ว่า สถานที่ทำงานแต่ละที่ให้ บรรยากาศในการทำงาน และความรู้สึกไม่เหมือนกัน ให้อารมณ์ในการทำงาน ทำให้เราผ่อนคลายหรืออยากทำงานมากขึ้นแตกต่างกัน บริษัทบางแห่งให้ความสำคัญกับบรรยากาศในการทำงานเป็นอย่างมาก เช่นมีจัดพื้นที่ให้พนักงานสามารถคุยงานหรือทำงานได้อย่างผ่อนคลาย ไม่จำเป็นต้องนั่งทำที่โต๊ะทำงานเหมือนที่เคยเป็นมา มีผลการวิจัยจาก Shruti Sehgal ว่าคุณภาพของสถานที่ทำงาน มีผลต่อทัศนคติของพนักงานและช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน นอกจากนั้นผลการวิจัยแสดงว่า การออกแบบออฟฟิศที่ดี มีผลต่อความสามารถในการทำงานให้เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจัยต่างๆได้แต่ เฟอร์นิเจอร์ เสียง แสงสว่าง อุณหภูมิ และบรรยากาศรอบๆ นั้น เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการทำงานโดยตรง ดังนั้นเมื่อเวลาเรารู้สึกว่าสถานที่ทำงานหรือออฟฟิศของเรา ไม่น่าทำงาน วุ่นวาย ไม่จรรโลงใจ จะส่งผลให้เราไม่มีอารมณ์ทำงาน คิดงานไม่ออก ทางแก้ของมนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่ คือ การเอางานกลับมาทำที่บ้าน หรือเอาไปทำที่ร้านกาแฟ ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่ทางแก้ที่ถูกต้องสักเท่าไหร่ เพราะว่าเราควรจะแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ คือร่วมกันปรับปรุง บรรยากาศในการทำงาน หรืออาจจะเรียกร้องให้ทางบริษัทปรับปรุงคุณภาพของสถานที่ทำงาน เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นหนึ่งในหลายๆ เรื่องที่บริษัทควรให้ความสำคัญ แต่การเอางานกลับไปทำที่บ้านหรือร้านกาแฟ เสียทั้งเวลาพักผ่อน เวลาของครอบครัว และเสียเงินค่ากาแฟ และอื่นๆ แต่ถ้าเรารู้สึกว่าบรรยากาศของร้านกาแฟนั้นสามารถช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานและช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลองนี่เลยครับ Coffitivity สามารถเลือกเสียงบรรยากาศของร้านได้ 3... Read more
จากบทความที่แล้ว 16 ข้ออ้างในการไม่เริ่มทำธุรกิจ จะเห็นได้ว่าข้ออ้างฮิตที่สุด คือ “ไม่มีเงิน” ซึ่งจริงๆ ผมเองมั่นใจว่า ไม่มีเงินทุน ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ แม้จะติดขัดบ้างก็ตาม เพราะผมเองก็เคยประสบปัญหานี้มาก่อน ดังนั้นจึงเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อแนะนำวิธีเริ่มต้นธุรกิจในยามที่มีทุนจำกัดหรือไม่มีเงินว่าควรจะทำอย่างไรบ้าง 1. เริ่มต้นธุรกิจกับสิ่งที่คุณถนัดที่สุด – การเริ่มต้นธุรกิจที่รู้จัก เข้าใจ และเชี่ยวชาญ จะช่วยทำให้ประหยัดเงินลงทุน เนื่องจากสามารถเริ่มต้นได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องจ้างผู้อื่นในช่วงเริ่มต้น อีกทั้งการที่เข้าใจและเชี่ยวชาญ จะช่วยลดความผิดพลาดในการดำเนินธุรกิจ มีความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี และสามารถหาช่องทางทำธุรกิจได้ง่าย ความรู้ความสามารถที่มีจะช่วยให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ เพราะต้นทุนคือความรู้ความสามารถนั่นเอง 2. ทำอะไรเองได้ทำ – เมื่อมีข้อจำกัดในเงินลงทุน ไม่มีเงินทุน ดังนั้นทำอะไรเองได้ทำไปก่อน ศึกษาและเรียนรู้ไปพร้อมๆกับการทำธุรกิจ อาจจะหัวหมุนไปบ้างเนื่องจากอาจจะต้องทำเกือบทุกอย่าง ทั้งวางแผน ทำเว็บ ดูแลแฟนเพจ ผลิตสินค้า ติดต่อลูกค้า ขายสินค้าให้บริการลูกค้า ส่งสินค้า ทำบัญชี ออกบิล เก็บเงิน และอื่นๆอีกมากมาย อาจจะมีบ้างที่เราไม่ถนัด แต่ก็ต้องทำความเข้าใจหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะสามารถเริ่มต้นธุรกิจให้ได้ 3. แนะนำธุรกิจของคุณกับคนรอบตัว – การเริ่มต้นธุรกิจ... Read more
