ในยุคที่ความรู้และข่าวสารต่างๆสามารถหาอ่านได้อย่างง่ายดาย การเริ่มต้นธุรกิจจึงเป็นทางเลือกที่คนสนใจมากขึ้น เนื่องจากสามารถศึกษาวิธีการทำต่างๆ รูปแบบธุรกิจ พฤติกรรมผู้บริโภค และตัวอย่างการทำธุรกิจแบบต่างๆได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม หลายๆกรณีที่เราจะเห็นว่าการเริ่มต้นธุรกิจไม่ได้เป็นอย่างที่หวังเสมอไป สาเหตุหลักๆล้วนเกิดจากผู้ประกอบการเองทั้งนั้น แต่การรู้จักตัวเองช่วยให้เราสามารถดำเนินธุรกิจที่เหมาะสมกับตัวเราได้อย่างไร แนะนำให้อ่านบทความนี้ครับ
รู้จักตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญมากในการทำสิ่งใดๆ ในการเริ่มต้นธุรกิจ ส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่การวิเคราะห์คู่แข่ง สถานการณ์การแข่งขันในตลาด แล้วกระโดดลงสู่สนามแข่งขันทันที การรู้จักตัวเอง เป็นการทำวิจัย (Research) อย่างหนึ่ง ก่อนอื่นเราต้องรู้จักตัวเองก่อน เรามาลองคิดตามดีกว่าว่าตัวเองเป็นอย่างไร
1. เรามีลักษณะนิสัยอย่างไร
เป็นสิ่งที่เราควรจะต้องคิดเป็นอันดับแรก ถ้าเราตอบได้ ทำให้เราสามารถที่จะวางแผนสิ่งต่างๆในการใช้ชีวิต การดำเนินธุรกิจ และการอยู่รวมกันในสังคมได้ดีขึ้น ตัวอย่างของลักษณะนิสัย เช่น ชอบเรียนรู้ มองโลกในแง่ดี ใจร้อน โผงผาง ใจอ่อน ใจเย็น พูดมาก ขยัน ขี้เกียจ ชอบทำงานเป็นทีม ชอบทำงานคนเดียว เป็นต้น การที่เรารู้ลักษณะนิสัยของเรา ช่วยให้เราเลือกที่จะปรับแก้หรือพัฒนาลักษณะนิสัยให้ดีขึ้น หรือาจจะใช้ในการเลือกผู้ร่วมงานที่ตรงกับลักษณะนิสัยของเราได้
“The better you know yourself, the better your relationship with the rest of the world.” — Toni Collette
2. เรามีจุดแข็ง หรือ จุดอ่อน อย่างไร
การที่เราวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของตัวเองได้ หมายถึงเราได้วิเคราะห์ตัวเองในระดับหนึ่งแล้ว ถ้าเราสามารถกำหนดจุดแข็งของเราได้ เราจะสามารถมั่นใจได้ว่าเราจะใช้จุดแข็งในการพาธุรกิจตัวเองให้สามารถต่อสู้กับการแข่งขันในตลาดได้ ส่วนจุดอ่อนยิ่งกำหนดได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี (ส่วนใหญ่คนจะกำหนดจุดอ่อนตัวเองได้น้อยกว่าจุดแข็ง อาจจะเพราะคนเรามองแต่ข้อดีไม่ค่อยมองข้อเสียกัน) เพราะเราจะสามารถรู้ว่าข้อเสียเรามีอะไรบ้าง และช่วยให้ปรับแก้ อุดรอยรั่วให้ธุรกิจของเรานั่นเอง
“Know yourself to improve yourself.” — Auguste Comte
3. เรามีความถนัดด้านไหนบ้าง
คนเรามีความถนัดไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะอยู่สายงานเดียวกันก็ตาม เช่น สายงานการตลาด อาจจะมีความถนัดในการวิเคราะห์ ถนัดเชิงกลยุทธ์ ถนัดสื่อโฆษณา ถนัดด้านการวิจัยตลาด หรือ ในสายงานการถายภาพ อาจจะมีความถนัดแนว Portrait ถนัดแนว Wedding ถนัดแนวรับปริญญา ถนัดแนวแฟชั่น ถนัด Landscape เป็นต้น การที่เราสามารถตอบได้ว่าเราถนัดด้านใด ทำให้เรารู้ว่าเราไม่ถนัดด้านใดนั่นเอง เราสามารถเลือกได้ว่าจะเสริมความถนัดที่มีอยู่ให้มากที่สุด หรือ เสริมสิ่งที่ไม่ถนัดให้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น
“The most difficult thing in life is to know yourself.” — Thales
4. เรามีความชอบด้านไหนบ้าง
ข้อนี้ผมคิดมาตลอดว่าใครๆน่าจะตอบได้ แต่เอาเข้าจริงๆจะตอบกันยากพอสมควร เพราะบางครั้งเราใช้ชีวิตกันอย่างรวดเร็ว ผ่านไปวันต่อวัน จนเราอาจจะลืมคิดว่าเราชอบสิ่งไหน ส่วนใหญ่คนจะเริ่มธุรกิจจากความชอบของตัวเอง เป็นแรงผลักดันให้ลองทำธุรกิจที่ตนเองชอบ เช่นชอบดื่มกาแฟ เลยอยากเปิดร้านกาแฟ ชอบกินอาหาร เลยอยากเปิดร้านอาหาร ชอบเล่นเกมส์ เลยอยากเปิดบริษัทเกมส์ การเริ่มต้นธุรกิจด้วยความชอบเป็นสิ่งที่ดี เพราะเรามีแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ แต่ต้องไม่ลืมที่จะวิเคราะห์และวางแผนธุรกิจให้ดี
“Trust your gut. You know yourself, so don’t let somebody else tell you who you are.” — Tatiana Maslany
5. เรามีพฤติกรรมการทำธุรกิจอย่างไร
ข้อนี้สอดคล้องกับลักษณะนิสัยของเรา แต่จะเน้นไปในเรื่องของธุรกิจและการลงทุน เช่น ชอบเสี่ยง ไม่ชอบเสี่ยง มีความละเอียดรอบคอบ มีการตัดสินใจเร็ว เน้นสร้างเงินทอง เน้นสร้างชื่อเสียง เป็นต้น การรู้พฤติกรรมการทำธุรกิจ ช่วยเราให้สามารถเลือกธุรกิจที่เหมาะสมกับตัวเราและสามารถวางแผนธุรกิจได้อย่างถูกต้องกับการดำเนินธุรกิจของเราเอง เช่น ถ้าเราไม่ชอบเสี่ยง การทำธุรกิจที่ซื้อมาขายไป แต่ต้องลงทุนเงินไปก่อน ต้องสต๊อกของไว้ ก็อาจจะไม่เหมาะ
“There is no substitute for accurate knowledge. Know yourself, know your business, know your men.” — Lee Iacocca
จากที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นเพียงตัวอย่างในการที่จะรู้จักตัวเองเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ การยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ยอมรับจุดอ่อนต่างๆของตัวเอง และพัฒนาให้เป็นจุดแข็งให้ได้ สุดท้ายแล้ว “ก่อนที่จะรู้จักผู้อื่น ควรจะรู้จักตัวเองให้มากที่สุด” เมื่อเรารู้จักตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว จะสามารถทำให้เราวิเคราะห์คู่แข่งได้ดีมากขึ้น
Source: SME Research by MRSG Co.,Ltd
Image credit: nolifebeforecoffee
