JavaScript must be enabled in order for you to see "WP Copy Data Protect" effect. However, it seems JavaScript is either disabled or not supported by your browser. To see full result of "WP Copy Data Protector", enable JavaScript by changing your browser options, then try again.

Thai SME Research

เปิดโลกธุรกิจ SMEs

20 คำถามที่จะช่วยในการเลือก…ไอเดียในการทำธุรกิจ 20 คำถามที่จะช่วยในการเลือก…ไอเดียในการทำธุรกิจ
ไอเดียในการทำธุรกิจ เป็นสิ่งจำเป็นในการเริ่มต้นธุรกิจ (Startup business) และการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ (New product development) ไอเดียใหม่ๆ จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถแข่งขันในตลาดได้ แล้วเราจะเลือกไอเดียในการทำธุรกิจได้อย่างไร ไอเดียไหนมีโอกาสมากที่สุด ไอเดียไหนสามารถพัฒนาเป็นสินค้าและบริการได้ บทความนี้นำเสนอ 20 คำถามที่จะช่วยในการเลือกไอเดียในการทำธุรกิจ 1. คุณกำลังแก้ปัญหาอะไร? การคิดไอเดียในการทำธุรกิจ ต้องเริ่มต้นจากการกำหนดปัญหาของสินค้าหรือบริการก่อน แล้วจึงคิดไอเดียทำธุรกิจมาตอบโจทย์หรือแก้ปัญหา ดังนั้น ถ้าคุณยังไม่ได้กำหนดหรือรู้ถึงปัญหา... 20 คำถามที่จะช่วยในการเลือก…ไอเดียในการทำธุรกิจ

ไอเดียในการทำธุรกิจ เป็นสิ่งจำเป็นในการเริ่มต้นธุรกิจ (Startup business) และการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ (New product development) ไอเดียใหม่ๆ จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถแข่งขันในตลาดได้ แล้วเราจะเลือกไอเดียในการทำธุรกิจได้อย่างไร ไอเดียไหนมีโอกาสมากที่สุด ไอเดียไหนสามารถพัฒนาเป็นสินค้าและบริการได้ บทความนี้นำเสนอ 20 คำถามที่จะช่วยในการเลือกไอเดียในการทำธุรกิจ

1. คุณกำลังแก้ปัญหาอะไร? การคิดไอเดียในการทำธุรกิจ ต้องเริ่มต้นจากการกำหนดปัญหาของสินค้าหรือบริการก่อน แล้วจึงคิดไอเดียทำธุรกิจมาตอบโจทย์หรือแก้ปัญหา ดังนั้น ถ้าคุณยังไม่ได้กำหนดหรือรู้ถึงปัญหา หรือไอเดียในการทำธุรกิจนี้ยังไม่สามารถแก้ปัญหานั้นได้ แปลว่าไอเดียนี้ยังไม่ผ่าน

2. คนอื่นเคยแก้ปัญหานี้แล้วหรือไม่? เพราะอะไรถึงสำเร็จหรือล้มเหลว เราสามารถเรียนรู้ไอเดียในการทำธุรกิจได้จากประสบการณ์นั้น อาจช่วยการวางกรอบของปัญหาแคบลง ปัญหาจะเฉพาะเจาะจง ไม่กว้างจนเกินไป ช่วยทำให้ไอเดียในการทำธุรกิจสามารถตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาได้

3. ประโยชน์ของสินค้าหรือไอเดียในการทำธุรกิจคืออะไร? ยิ่งคุณคิดข้อดีหรือประโยชน์ของไอเดียในการทำธุรกิจได้มากเท่าไหร่ และเจาะจงได้มากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้สามารถตอบโจทย์หรือสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

4. คุณสมบัติหลักของสินค้าหรือบริการคืออะไร? ลองเขียนหรืออธิบายคุณสมบัติหลักของสินค้าหรือบริการ ถ้าคุณนึกไม่ออกหรืออธิบายได้ไม่ละเอียดพอ แปลว่าไอเดียในการทำธุรกิจนี้ยังไม่ผ่าน

5. ไอเดียในการทำธุรกิจแนวเดียวกันกับที่คุณเคยลองทำหรือไม่? ถ้าแนวเดียวกัน แตกต่างกันอย่างไร ถ้าคุณไม่สามารถตอบได้ว่าแตกต่างอย่างไร ประโยชน์หรือคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร ลองหาไอเดียใหม่จะดีกว่า

6. ใครคือคู่แข่งของคุณ? ถ้าตอบไม่ได้ หมายถึงไอเดียในการทำธุรกิจอาจจะไม่ไม่ละเอียดพอ หรือยังไม่ชัดเจนพอ เนื่องจากเป็นไปได้น้อยมากที่คุณจะมีไอเดียในการทำธุรกิจที่ไม่มีคู่แข่งเลย ทั้งทางตรงและทางอ้อม การรู้ว่าคู่แข่งคือใคร เป็นอย่างไร เป็นสิ่งสำคัญมากในการทำธุรกิจ บางครั้งจึงต้องมีการทำวิจัยตลาด (Market research) เพื่อเข้าถึงข้อมูลคู่แข่ง หรือการทำวิเคราะห์คู่แข่ง (Competitor analysis)

7. คู่แข่งเลียนแบบได้ง่ายหรือไม่? ถ้าไม่มีคุณสมบัติหลักอะไรที่โดดเด่น แตกต่าง หรือมีคุณสมบัติหลักแต่ใครๆก็สามารถทำได้ ไอเดียในการทำธุรกิจนี้อาจจะต้องทบทวนใหม่ หรือ ควรจะต้องวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดให้รัดกุม

8. คุณทำวิเคราะห์ SWOT แล้วหรือไม่? SWOT ประกอบด้วย จุดแข็ง (strengths) จุดอ่อน (weaknesses) โอกาส (opportunities) และปัญหา (threats) การทำ SWOT analysis จะช่วยให้เข้าใจตัวเราและคู่แข่งในตลาดมากขึ้น จะช่วยเสริมให้ไอเดียในการทำธุรกิจประสบความสำเร็จ

9. คุณพร้อมด้านเวลาและเงินทุนหรือไม่? การเริ่มต้นธุรกิจ จำเป็นต้องใช้ทั้งเวลาและเงินทุน ขึ้นอยู่กับไอเดียในการทำธุรกิจนั้นว่าต้องใช้มากน้อยขนาดไหน แต่ถ้าเรายังไม่พร้อม ควรรอจนกว่าสามารถหาทางแก้ปัญหาเรื่องเงินและเวลาเสียก่อน จึงเริ่มต้นธุรกิจ

10. คุณได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญบ้างหรือไม่? คุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญภาครัฐ เช่น กรมส่งเสริมการส่งออก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และอื่นๆ หรือผู้เชี่ยวชาญภาคเอกชน  เช่น การวิเคราะห์ตลาด การวิเคราะห์ธุรกิจ หรือการทำวิจัยตลาด วิจัยลูกค้า

11. ใครคือกลุ่มเป้าหมายของคุณ? คุณต้องรู้ว่าใครคือกลุ่มเป้าหมาย ข้อมูลทางประชากรศาสตร์อาจจะไม่เพียงพอ เช่น เพศ อายุ ที่อยู่ การศึกษา แต่ต้องรู้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ความต้องการ หรือทัศนคติต่างๆ ดังนั้นจึงต้องทำการวิจัยตลาด (Market research) หรือทำวิจัยลูกค้า (Consumer research) เพื่อเข้าใจพฤติกรรมการบริโภคและการซื้อสินค้าและบริการของลูกค้า

12. ขนาดหรือมูลค่าของตลาดเป็นอย่างไร? หลังจากกำหนดกลุ่มเป้าหมายแล้ว คุณต้องรู้ว่าจำนวนลูกค้ามากเท่าไหร่ที่ต้องการสินค้าและบริการของคุณ ไอเดียในการทำธุรกิจจะประสบความสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่จำนวนลูกค้ามากเท่าไหร่ที่พร้อมจะจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการของคุณ

13. ผลตอบรับของกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างไร? อย่างที่เคยกล่าวไว้ในบทความวิธีประสบความสำเร็จในธุรกิจด้วยวิจัยตลาด ว่าการฟังเสียงจากลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นควรจะทำวิจัยตลาด วิจัยลูกค้า และวิจัยสินค้าและบริการ เพื่อรับรู้ทัศนคติของลูกค้า ผลตอบรับของกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงความตั้งใจซื้อสินค้า (Purchase intention) สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่  7 เคล็ดลับการทำวิจัยตลาดแบบง่ายที่สุด และ การทำวิจัยตลาดแบบง่ายๆและประหยัด

14. ได้ลองทดสอบความสนใจของกลุ่มเป้าหมายหรือไม่? อาจจะทำหน้าเว็บขึ้นมา พร้อมกับรายละเอียดสินค้าและบริการ ให้ผู้ที่สนใจสมัครเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม จะช่วยทำให้เรามั่นใจได้ว่าสินค้าและบริการเป็นที่สนใจของตลาด เป็นวิธีที่ทดสอบตลาดได้ง่ายและประหยัด หรืออาจจะทำวิจัยสินค้าและบริการก็ได้เพื่อวัดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย

15. สามารถผลิตสินค้าขั้นต่ำเพื่อลองตลาดได้หรือไม่? ไม่ควรที่จะสั่งผลิตสินค้ามากๆในครั้งแรก แต่ควรเริ่มผลิตน้อยๆก่อน เพื่อวัดความสนใจและความเป็นไปได้ของตลาด และสามารถปรับปรุงสินค้าได้ก่อนที่จะเปิดตัวในตลาดอย่างจริงจัง

16. ลูกค้าจะยอมจ่ายเงินก่อนหรือไม่? ในบางสินค้าอาจจะสามารถขายสินค้าได้จากสินค้าตัวอย่างหรือพิมพ์เขียว ถ้าลูกค้ายอมจ่าย นั่นหมายถึงลูกค้ามีความต้องการและสมัครใจที่จะซื้อสินค้านั้นจริงๆ แปลว่าไอเดียในการทำธุรกิจนี้ผ่านฉลุย

17. ใครเป็นคนผลิตสินค้า? คุณต้องรู้ว่าใครเป็นคนผลิตสินค้า คุณเอง หรือหุ้นส่วน หรือจ้างผู้อื่นผลิต อย่าลืมคิดถึงความสามารถในการผลิตด้วยว่าเป็นไปได้หรือไม่ ถ้าจ้างผลิต ต้องพิจารณาเงินทุนให้รอบคอบ

18. ใครเป็นคนจัดส่งสินค้า? คุณต้องรู้ว่าใครเป็นคนจัดส่งสินค้า คุณเอง หรือหุ้นส่วน หรือจ้างผู้อื่นจัดส่งสินค้า ต้องไม่ลืมคิดถึงความสามารถในการจัดส่งด้วยว่าเป็นไปได้หรือไม่ ถ้าจ้างส่งสินค้า ต้องพิจารณาเงินทุนให้รอบคอบ

19. เมื่อไหร่ถึงจุดคุ้มทุน? คุณต้องรู้ว่าไอเดียในการทำธุรกิจนี้จุดคุ้มทุนเมื่อไหร่ หรือเมื่อไหร่ที่จะสามารถทำกำไรได้ เพื่อที่สามารถจัดการเงินทุนและเงินทุนหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

20. ผู้ลงทุนจะได้อะไร? ถ้าคุณต้องมีผู้ลงทุนมาช่วยให้ธุรกิจสามารถเริ่มต้นและดำเนินธุรกิจได้ คุณต้องพิจารณาเรื่องผลประโยชน์ว่าผู้ลงทุนจะได้อะไร อย่างไร

อ่านจบมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าคุณสามารถตอบได้ทุกข้อหรือนำไปปรับแก้ไขแล้ว บอกได้ว่าไอเดียในการทำธุรกิจของคุณ ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

ทาง SME Research ได้เพิ่มช่องทางอัพเดตทาง Line ที่ ID: @smeresearch หรือกดเพิ่มเพื่อนได้ที่นี่ครับ

เพิ่มเพื่อน

#smeresearch #sme #business #AEC #วิจัย #วิจัยตลาด

Source: entm และ SME Research by MRSG Co.,Ltd

Image credit: Tsahi Levent-Levi

Comments

comments